สกินแคร์หรู เลอค่า บำรุงผิวหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบ จาก CHANEL

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไม Skincare บางอย่าง มันถึงแพง เมื่อตอนที่เป็น Beauty Editor นะครับ
ก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสกับเบื้องหลังการทำงาน การคิดค้นอะไรต่าง ๆ ของ Premium Skincare ของ Luxury Brand หลาย ๆ แบรนด์นะครับ
ว่าทำไมราคาถึงได้อู้หูขนาดนั้น วันนี้ชัยก็เลยมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟัง สมัยที่เป็น Beauty Editor ชัยได้มีโอกาสนะครับ
ไปคุยกับนักวิทยาศาสตร์ของ Chanel นะครับ
ตอนที่เขาออกไลน์ Skincare Premium ชื่อ Sublimage นะครับ
ซึ่งน่าจะเป็นเวลา 10 กว่าปีมาแล้วนะคะ ว่ากว่าจะมาเป็น Sublimage ใช้กระบวนการอะไรอย่างไรบ้าง เขาก็เล่าว่า เขาจะส่งนักวิทยาศาสตร์ออกไปทั่วโลกนะครับ
เพื่อไปค้นหาส่วนผสมที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกมานะครับ
ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในห้องแล็บ หลังจากที่เขาเดินทางไปที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Chanel เขาก็ เขาเรียกว่าเกิดการแตกฮือกันทั้งห้องแล็บเลยว่า วานิลลาที่เกาะมาดากัสการ์เจ๋งมากนะครับ
มีประสิทธิภาพในการช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว ยอดเยี่ยมมาก คือต้องบอกก่อนว่า เกาะมาดากัสการ์เป็นแหล่งผลิตวานิลลา เป็นแหล่งปลูกวานิลลาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกนะครับ
ก็ส่งออกวานิลลาไปทั่วทุกมุมโลกเลย เขาก็ตัดสินใจไปสร้างฟาร์มที่เกาะมาดากัสการ์เลย เป็นของ Chanel เองนะครับ
แล้วก็ทำการศึกษาร่วมกับชาวพื้นเมืองที่นั่น เมล็ดที่อยู่ในฝักของวานิลลา โดยเฉพาะพันธุ์ที่ชื่อว่า Planifolia นะครับ
มีสารที่ชื่อว่า Ephémères นะครับ
เขาบอกว่ามี Regenerating Power ก็คือมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้าง Collagen, Fibroblast อะไรต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ความยากขึ้นไปอีกก็คือว่า ตัวสารที่ชื่อว่า Ephémères นะครับ
จะมีประสิทธิภาพสูงสุด ก็คือในช่วงพฤษภาคมแล้วก็มิถุนายนใน
แต่ละปีเท่านั้น ฉะนั้นเขาเก็บได้เฉพาะช่วงนี้ คือ Chanel เขาเลือกเอา
แต่ของดีที่สุดเท่านั้น ฉะนั้นหลังจากเดือนต่าง ๆ ถัดไป วานิลลาทั้งหมดก็คือเขาไม่ใช้ วิธีการเก็บ ก็ไม่ใช้การเก็บแบบอุตสาหกรรม ไม่ใช่รถไถ พรืด ๆ ๆ ๆ แล้วก็เก็บไป อะไรอย่างนี้ไม่ใช่นะคะ คิดภาพตามนะคะ ภาพตัดมาที่เกาะมาดากัสการ์ ดิฉันก็มีผ้าโพกหัวนะคะ ใส่ชุดพื้นเมือง แล้วก็เก็บฝักวานิลลาด้วยมือ ทีนี้ วานิลลานี่นะคะ ตรงส่วนที่เป็นผลของเขา คือหนึ่งก้านก็จะมีหลายผลใช่ไหมคะ เขาบอกว่าจะต้องค่อย ๆ ตัดมาทั้งก้านเลยนะครับ
ไม่ใช่ปลิดออกมาทีละผลนะครับ
เพราะว่าจะไปทำให้กระบวนการเคมีข้างในของวานิลลาเปลี่ยนไป เก็บปุ๊บแล้วก็เอาลงใส่กล่องนะคะ คือไม่ใช่โยนลงกล่องนะ ค่อย ๆ วางให้เป็นระเบียบนะครับ
แล้วก็ค่อย ๆ แพ็คทีละกล่อง แพ็คปุ๊บ เอาขึ้นเครื่องเลยค่ะ
บินตรงสู่ฝรั่งเศสนะครับ
แล้วก็เข้าห้องแล็บไปเลย แล้วก็สกัดเป็นส่วนผสมในทันที ในวันเดียวกัน เพื่อคงประสิทธิภาพให้ไว้ได้มากที่สุด ชิ้นที่ชัยอยากจะมานำเสนอที่สุดเลยนะครับ
ก็มีอยู่ 2 ชิ้น นอกจากจะมี Vanilla Planifolia แล้วนะครับ
ในขวดที่ด้านบนเป็นสีดำนะคะ ชื่อว่า SUBLIMAGE L'ESSENCE FONDAMENTALE จะมีส่วนผสมอีกอย่างหนึ่ง ที่ชื่อว่าดอก Solidago ซึ่งดอกนี้เกิดจากการที่ Mr.Nicola ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมนักวิจัยจาก Chanel เขาเริ่มกังวลว่า พืชที่เป็นตำรายาโบราณของฝรั่งเศส กำลังจะสูญหายไปจากโลกนี้ เขาก็เลยตัดสินใจ ไปตั้งศูนย์วิจัยที่ทางตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส แล้วเขาก็เริ่มทำการศึกษาพืชในบริเวณนั้นกว่า 500 สายพันธุ์ จนค้นพบว่า มีดอกสีเหลืองชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าดอก Solidago เติบโตได้ที่ระดับความสูงที่ 2,800 เมตร เขาก็เลยเอาดอกนี้มาศึกษาวิจัย แล้วก็ค้นพบว่าดอก Solidago นะครับ
มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นโปรตีนที่ชื่อว่า SNEV นะครับ
ซึ่งโปรตีนนี้แหละเป็นปัจจัยสำคัญ ให้ผิวของเรามีความเรียบเนียนขึ้น แล้วก็มีความกระชับขึ้น ดอก Solidago เก็บได้เฉพาะแค่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนเท่านั้น คือขวดนี้จะบอกว่า นอกจากจะช่วย Anti-aging อะไรต่าง ๆ แล้วนะครับ
ที่สำคัญคือคุณใช้ไปแล้ว คุณจะรู้สึกว่ากรอบหน้าของคุณชัดขึ้น เรียวกระชับได้รูปมากขึ้น นอกจากนั้นนะครับ
เขายังค้นพบอีกว่า ดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Anthylis มาเป็นส่วนผสมใน Sublimage ขวดนี้นะครับ
ที่ชื่อว่า SUBLIMAGE L'ESSENCE LUMIÈRE อันนี้ใช้แล้วผิวจะดูกระจ่างใสขึ้น ขวดนี้ชัยบอกเลยนะว่าชัยใช้เช้า-เย็น ชัยรู้สึกเลยว่าผิวดูสุขภาพดีขึ้น มันดูอมชมพูขึ้นอะ พูดง่าย ๆ แล้วก็รู้สึกว่าความเข้มของฝ้าลดลง ฉะนั้นก็เลย Love มาก ๆ นะครับ
สมมติว่า
ถ้าใครงงว่าสองขวดนี้จะต้องซื้อคู่กันเลยเหรอ อันนี้ขึ้นอยู่กับความกังวลของคุณนะครับ

ถ้ามีใครกังวลเรื่องกรอบหน้าหรือความกระชับ ริ้วรอยที่ค่อนข้างลึกอะไรอย่างนี้ ชัยแนะนำให้ใช้ขวดนี้ในตอนกลางคืนนะครับ
ก็คือ SUBLIMAGE L'ESSENCE FONDAMENTALE นะครับ

แต่ตอนเช้าเราต้องไปสู้กับรังสี UV ใช่ไหมครับ
ที่พร้อมจะรุมทำร้ายให้สีผิวของเราเข้มขึ้น ทำให้ฝ้า กระ ชัดขึ้น ชัยก็จะแนะนำว่าอันนี้ก็ใช้ในตอนเช้าก็ได้นะครับ

ถ้าไม่อยากใช้หลายขึ้นตอนมากนะครับ
ก็คือ อันนี้กลางคืน อันนี้ก็ตอนเช้านะครับ
เชื่อชัย อยากรู้ใช่ไหมว่ากลิ่นและเนื้อเป็นอย่างไร จริง ๆ แล้วเนื้อ 2 ขวดนี้ก็แทบจะเป็นเนื้อเดียวกันเลย SUBLIMAGE L'ESSENCE FONDAMENTALE บีบออกมานะคะ จะเป็นเนื้อแบบนี้นะคะ กลิ่นแบบว่า ดิฉันเหมือนพุ่งตัวไปอยู่ในเกาะมาดากัสการ์ เป็นกลิ่นหอมที่มีความเป็น Chanel นะคะ แล้วก็คุณจะหยุดดมมือตัวเองไม่ได้เพราะว่า หอม
แต่ไม่ใช่กลิ่นหอมแบบน้ำหอมนะ เป็นกลิ่นหอมที่มีความสะอาด แล้วก็เป็นกลิ่นหอมที่ ไม่รู้จะบอกว่ายังไง คือหอมแพงอะค่ะ
แล้วเนื้อก็ซึมเร็วมาก ใช้แล้วไม่เหนอะหนะ ทีนี้ อันนี้เป็นหนึ่งใน Brightening ที่ชัยจะต้องใช้ เนื้อคล้ายกันเลย ก็เป็นสีขาวนวลผู้ดี ชอบมาก ซึมเร็วนะคะ คือ
ถ้าคุณจะใช้คู่กันทั้งเช้าทั้งเย็น ใช้ขวดนี้ก่อน คือเรากำจัดฝ้าก่อน แล้วเราก็ค่อยมายกกระชับ หรือคุณจะค่อย ๆ ซื้อทีละขวดก็ได้ อันนี้ดิฉันเข้าใจนะคะ 40 ml. 18,900 บาท ขวดนึงนะครับ
ปริมาณการใช้นี่แล้ว
แต่เลยนะครับ
1 ปั๊มก็ได้นะครับ
หรือจะ 2 ปั๊มก็ได้ แล้วก็วอร์มไปที่ฝ่ามือ แล้วก็กดไปที่หน้านะครับ

แต่ว่าขวดนึงใช้ได้ค่อนข้างนานเลย ฉะนั้น ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะครับ

แต่ ถามว่าเหมาะกับใคร เอาเป็นว่าเข้าวัยทำงานสัก 30 แล้วอยากดูแลผิว กำลังมองหา Skincare ที่ให้ Feeling ของความ Luxury
แต่ในขณะเดียวกัน ประสิทธิภาพก็ไม่แพ้ความ Luxury Sublimage นะครับ
เป็นอีกไลน์หนึ่งของ Chanel ที่ชัยว่าใช้ดีแล้วก็เวิร์กมาก ๆ เชื่อชัย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *