พอดีเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสนะครับ
ก็เลยมีของมาอวดแฟนเพจทุกคน เป็นของที่ชัยชอบมาก ๆ เลย ใครที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยว โดยเฉพาะไปฝรั่งเศสไปปารีสอย่างนี้ ก็จะได้มี Shoping List กัน คุณสามีเขาก็เอา Magazine เล่มนี้มาให้ดูนะฮะ ชื่อว่า 60 ล้านคน Consommateur นี่คือ Consumer นะฮะ จริง ๆ แล้วอ่ะเป็น Magazine ที่จัดอันดับ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในประเทศฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น Skincare นะฮะ มีทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนตร์ ผงซักฟอกก็มี คือจัดอันดับว่าอะไรใช้ดี เขามีการจัดอันดับครีม ที่ได้รางวัลนะครับ
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Product ที่ราคาไม่แพง ไม่ใช่ Counter Brand เป็นแบรนด์ที่หาซื้อได้ใน Drug Store หรือว่าใน Supermarket เขาก็เลือกมา 10 Product ใช้ 20 คนในการทดสอบ Skincare เนี่ย ต่อ 1 Product ก็แปลว่าทั้งหมดนี่มี 200 คน เขาก็จะมีเครื่อง Skin Test ไว้ตรวจสภาพผิวเพื่อติดตามผล มีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมให้คะแนนด้วยนะครับ
ในเรื่องมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิวไหม มี criteria ในการให้คะแนนอะไรต่าง ๆ
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือผลลัพธ์ เป็นยังไงหลังจากที่ผ่านไปแล้วประมาณ 2-3 เดือน อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าแบรนด์ไหนได้ที่ 1
แต่นแตนแต๊น แบรนด์นี้ก็คือ Caudalie นั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่ได้รางวัลนี่ ก็คือชื่อว่า Vine Activ นะครับ
จริง ๆ แล้วก็คือ 3-in-1 Moisturizer เขาจะมี 20 คะแนนเต็มนะครับ
Caudalie นำโด่งไปเลย 15 คะแนน โดยเฉพาะในเรื่องของผลลัพธ์ ที่ช่วยให้ริ้วรอยดูลดเลือนอย่างเห็นผล อันนี้เขาบอกว่าเป็น 3-in-1 Moisturizer นะครับ
ก็คือช่วย Anti Pollution แล้วก็ช่วย Anti Aging ทำให้ผิวเรานี่มี Healthy Glow ขึ้นมา เนื้อดีมาก ๆ นะครับ
ทาไปแล้วนี่นะฮะ จะทำให้ผิวดู Glow ทันทีที่ใช้เลย คือไม่ได้ Glow แบบระยิบระยับวิบวับนะครับ
แต่คุณจะรู้สึกเลยว่าผิวของคุณดูสว่าง ดูเนียนขึ้นนะฮะ เพราะว่าเนื้อครีมของเขานี่ เป็น Texture เหมือน Velvet เป็นโลชั่นที่มีความเนียนมีความนุ่ม ชัยก็จะใช้เช้าเย็นนะครับ
คือชัยว่ามันช่วยในเรื่องของความกระจ่างใส ที่ชัด ๆ เลยสำหรับชัยนะ คือใช้แล้วหน้าดูใสขึ้น แล้วก็ช่วยให้ความชุ่มชื่นได้ดี เป็นตัวปกป้องผิวนะครับ
ถ้าใครกำลังมองหา Moisturizer โดยเฉพาะสำหรับทาในตอนเช้า แล้วหน้าไม่มัน หน้าไม่เหนียว อันนี้ใช้ว่าเวิร์กนะครับ
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แล้วก็ไม่ทำให้ผิวอุดตัน
ถ้ารีบ ๆ นะก็มีแค่ชิ้นนี้ แล้วก็ทากันแดด แล้วก็จบเลย ตกอยู่ที่เป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,100 บาทนะครับ
แต่…
ถ้าไม่สะดวก ก็สามารถสั่งซื้อที่ Sephora ได้ จะอยุ่ที่ 1,860 บาท ก็เอาแล้ว
แต่สะดวกแล้วกันนะครับ
ทีนี้อีกชิ้นนึงจะพูดหลายทีแล้ว แล้วลืมทุกครั้งเลย ก็คือ Oil ขวดนี้นั่นเองนะฮะ แบรนด์ชื่อ Le Petit Marseillais นะครับ
เป็นแบรนด์ที่สามารถหาซื้อได้ใน Supermarket ทั่วไปเลย ที่ฝรั่งเศส ใน Drug Store ก็น่าจะมี อันนี้เป็นหนึ่งใน Top Ten ของ Best France Products เลยนะครับ
ถ้าเป็นภาษาฝรั่งเศสนะครับ
ก็คือ Huile sèche Huile ก็คือ Oil Sèche ก็คือ Dry Dry Oil นะครับ
Sublimante Peaux Très Sèches ก็คือ For Very Dry Skin นั่นเอง เป็น Oil ที่เนื้อบางเบามาก ทาไปแล้วนี่แห้ง
แต่ให้ความชุ่มชื่นสูง เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งมาก ๆ สมมติว่าใครเป็นสายออกกำลังกาย หรือเป็นสายที่ Outdoor เป็นสายที่ชอบไปทะเลนะ คุณฉีดขวดนี้ แล้วคุณก็ลูบไปที่ผิวทั้งตัวเลยนะ เวลาผิวคุณโดนแสงอ่ะ
ถ้าใครมีกล้ามเนื้อมีอะไรแบบนี้ คือกล้ามเนื้อจะเห็นขึ้นชัด แล้วก็จะดูลีนดูสวยอ่ะ เวลาถ่ายรูปรูปร่างเราจะดูลีนมี Curve มีอะไรแบบนี้
แต่ไม่ทำให้ตัวเป็นเมือกนึกออกไหม ไม่ทำให้ตัวเหนียวตัวลื่นหรืออะไรต่าง ๆ เพราะว่าเป็น Dry Oil ให้ความชุ่มชื่นได้ยาวนาน แม้
แต่อากาศร้อน ๆ บ้านเราอ่ะ คุณก็ฉีดได้นะครับ
กลิ่นหอมมาก ๆ เลย รู้สึกว่าจะเป็นกลิ่นแบบ กลิ่นมีความแพงนะ
แต่ราคา ขวดละประมาณ 8.9 ยูโร ก็ประมาณ 400-500 บาท
แต่ใช้ได้นานมาก ๆ เลย ขวดนี้เวิร์กมาก ๆ เชื่อชัย ท่านผู้ชมโปรดทราบ อีกสิ่งหนึ่งที่
ถ้าใครได้เหยียบย่างเข้าประเทศฝรั่งเศส หรือมีใครไปฝรั่งเศสแล้วคุณควรจะฝากเขาซื้อ หรือคุณควรจะซื้อติดกลับมา สิ่งนี้ชื่อว่า Biafine เป็นยาสามัญประจำบ้านของคนฝรั่งเศส เรื่องของเรื่องคือ ตอนรู้จักกับ Sylvain ใหม่ ๆ นางเนี่ยชอบไปอาบแดด แล้วก็ไม่มีผมนึกออกไหม แล้วก็ไม่ยอมใส่หมวก แล้วก็ไม่ยอมทาครีมกันแดดที่ศีรษะ แล้วทีนี้ก็เกิดอาการไหม้ หนังศีรษะก็ลอกแล้วดูน่าสงสารมากเลย หัวเหมือนนกกระจอกเทศ มันดูเป็นแบบว่าขุย ๆ แล้วนางก็ทนไม่ไหว นางก็หยิบอันนี้ขึ้นมาทา คุณเชื่อไหมคืนเดียวมันหาย สิ่งที่ลอก ๆ เบิร์น ๆ อ่ะ คืนเดียวเขาดีขึ้นเลย คือตอนแรกเขาแสบจนแบบจับหัวจับอะไรไม่ได้เลยนะ สามารถ Heal หายภายในคืนเดียวอ่ะ ก็คือเป็นยา
แต่ว่าเขาก็เอามาทาหน้าด้วย ที่เด็ดที่สุดคืออะไรไหมฮะคุณ 3.5 ยูโร ก็ประมาณ 130 บาท ไม่เกิน 150 บาทอ่ะเอาง่าย ๆ
แต่เป็นสิ่งที่ใช้ได้ทั้งร่างนะครับ
กลิ่นไม่ได้เป็นยา กลิ่นเป็นเหมือน Skincare ปกติเลย คือชัยใช้มาหมดแล้วอ่ะ น้ำร้อนลวก ปีกจมูกแห้ง หน้าเบิร์น หรือแม้
แต่บางวัน คือปาร์ตี้หนัก หน้า Dehydrate ชัยก็จะโปะอันนี้เข้าไปเลยก่อนนอน ตื่นมาโอเค หน้าไม่พินาศมาก อันนี้จะเป็นสิ่งที่เป็นตัว SOS ประจำบ้านของชัยนะ คือมีติดบ้านไว้นี่ดีมาก ๆ เลย อีกอันนึง Avène Cicalfate เป็นตัวที่คนฝรั่งเศสเขากำลังฮือฮากันมากนะครับ
ชัยก็เลยลองเอามาใช้ดู เป็นคล้าย ๆ ตัว Biafine เมื่อกี้ เพียง
แต่ว่าหลอดนี้ ชัยว่าสามารถใช้เป็น Moisturizer ทาได้ทุกวัน เป็น Repair Cream นะครับ
คิดค้นขึ้นมาเพื่อสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ผิวหลังทำเลเซอร์มา แล้วเบิร์น แสบไหม้ คุณกดสิวเป็นหลุมเป็นรูอะไรต่าง ๆ นี่ จะช่วยสมานแผลได้ดี แล้วก็ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยลดอาการผื่นแพ้อะไรต่าง ๆ หลอดนี้จะเวิร์กมาก ๆ นะครับ
ตอนที่อยู่ที่ฝรั่งเศสที่ผ่านมานี่ คืออากาศมันแห้งมาก เราก็รู้สึกว่าบางทีหน้าเราตึง ๆ ก็ลองใช้ดู อันนี้ก็รู้สึกว่าทำให้ผิวของเรานี่ ลดความแบบว่าตึง ลดความแห้งอ่ะนะครับ
ที่สำคัญคือรู้สึกว่าผิวเรามันแน่นขึ้น จริง ๆ เขาไม่ได้เคลมว่าช่วยของเรื่องลดริ้วรอยอะไรต่าง ๆ นะครับ
แต่รู้สึกว่าผิวนี่กระชับ ผิวแน่นขึ้น ถามว่าต่างยังไงกับตัว Biafine Biafine นั้นจริง ๆ แล้วเป็นยา ไม่ควรจะมาทาทุกวันนะ ควรทาตามอาการ คือ
ถ้าหายแล้วก็หยุดทา ตัว Cicalfate หรือ Repair Cream นี่ เป็นตัวซ่อมแซมผิว สามารถใช้ได้ทุกวัน แทนเป็น Moisturizer ไปเลยก็ได้นะครับ
เดี๋ยวจะให้ดูเนื้อ เนื้อก็ดีมากนะครับ
คือจะมีความเข้มข้นกว่า Biafine ไม่มากนะครับ
ถ้าใครที่ผิวแพ้ง่าย ทามาแล้วทุกอย่างในชีวิตนี้เนี่ย กำลังมองหน้า Moisturizer ดี ๆ นี่ ชัยว่าอันนี้หน้าลองนะครับ
แล้วราคาไม่แพงด้วยคุณ 5.95 ยูโร ประมาณ 240 บาทหลอดนี้ อันนี้เวิร์ก เป็นอีกอันนึงที่ควรจะมีพกติดบ้าน ในยามฉุกเฉิน หรือว่าใครที่ผิวแพ้ง่ายนะครับ
อันนี้น่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่เวิร์กมาก ๆ เชื่อชัย อีกอันนึงที่ เป็นครีมสารพัดประโยชน์ที่ดีมาก ๆ เลยนะครับ
สำหรับชัย คือทุกอย่างดีเหมือนกันหมด เพียง
แต่ว่าอาจจะไปลองเลือกตามเนื้อ ตาม Tuxture ที่คุณชอบแล้วกันนะครับ
Melvita อันนี้เป็นแบรนด์ออร์แกนิคของฝรั่งเศสนะครับ
อันนี้เวิร์กมาก ๆ เป็นบาล์มสารพัดประโยชน์นะครับ
เขาชื่อว่า 3 Honey Nactar นะครับ
จะมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง เป็นบาล์มที่มีกลิ่นหอมด้วยนะครับ
อันนี้ก็ทาได้ทั้งปากนะครับ
แล้วก็ทั้งผิวบริเวณที่แห้งลอก จมูกเล็บ พวกตามรอบเล็บอะไรต่าง ๆ ได้หมด อันนี้ก็ราคาไม่แพงนะครับ
ถ้าเป็นยูโรก็ 7.55 ยูโร
ถ้าเป็นเงินไทยก็เกือบ 300 บาท สำหรับใครที่ชอบกลิ่นหอมน้ำผึ้งนะครับ
แล้วก็เป็นสายออร์แกนิคอะไรแบบนี้ อันนี้ก็จะดีนะครับ
อันนี้ก็คือ Backstage Secret ของ Makeup Artist ที่ Paris Fashion Week หลอดนี้เยินนิดนึงนะฮะ ชื่อว่า Homéoplasmine อันนี้จะเป็นตัวสมานผิวเช่นกันนะครับ
แต่ว่าพวก Makeup Artist เขาจะนิยมใช้ที่ริมฝีปากนะครับ
อันนี้เวลาที่ริมฝีปากแห้งแตก แตกแบบว่าเลือดซิบอะไรแบบนี้ ทาอันนี้ไปนะครับ
เนื้อจะมีความเป็น Wax
แต่ว่าจะมีความ Matte ไม่ทำให้ริมฝีปากเราดูมันเกิน มีความเป็นยา ใช้เป็น Lip Balm Lip บำรุงก็ได้สำหรับคนที่ปากแห้งแตกมาก ๆ เป็นครีมสารพัดประโยชน์เช่นกัน สามารถเอามาทาบริเวณที่ปีกจมูกลอกอะไรต่าง ๆ สำหรับชัยนะที่เด็ดที่สุดสำหรับตัวนี้ก็คือว่า จริง ๆ แล้วใช้เป็นเหมือน Primer ก่อนทา Lipstick จะซีลริมฝีปากของเรานี่ให้สม่ำเสมอกัน เวลาทา Lipstick ก็จะไม่ตกร่อง อันนี้ก็เวิร์กมาก ๆ ราคาไม่แพงนะครับ
อยู่ที่ประมาณ 200 กว่าบาทอ่ะหลอดนี้
แต่ล่าสุดเขามาในรูปแบบของแท่งแล้ว ชื่อว่า Homéostick คืออันนี้จะเป็นลิปบำรุงทาปกติทุกวันนะครับ
เพียง
แต่ว่าเนื้อจะไม่เข้มข้น เท่ากับตัวที่เป็นหลอดแบบนี้
แต่ว่าก็ถือว่าเป็นลิปมันที่ดีเลย แล้วก็ราคาไม่แพง ก็ประมาณ 100 บาทแท่งนึง
ถ้าใครกำลังมองหาลิปมันอันนี้ก็เป็นอีกอันที่ราคาไม่แพง แล้วก็หาซื้อได้ที่ Drug Store ที่ฝรั่งเศสนะครับ
ชื่อว่า Homéstick นั่นเอง อีกอันนึงชื่อว่า Amilab เป็นลิปมันที่มีกลิ่นหอมนิด ๆ คือให้ความชุ่มชื่นยาวนาน คุณป้าฝรั่งเศสที่อยู่ข้าง ๆ เขาบอกว่าอันนี้อ่ะ The Best ราคาอยู่ที่ 5 ยูโรต่อ 3 ชิ้นนะ ประมาณ 200 บาท หารออกมาก็ 60 กว่าบาท ชัยว่าตอนนี้เป็นลิปมันในรูปแบบแท่งที่ใช้ง่าย แล้วให้ความชุ่มชื้นสูงเนี่ย อันนี้คืออันดับ 1 ของชัยนะตอนนี้ Amilab คือที่ผ่านมาเมื่อกี้ทั้งหมด เป็นของฝรั่งเศสหมดเลยนะ Made in france หมดเลย
แต่สองขวดที่อยู่ตรงหน้านี่เป็นของอเมริกา เป็นแชมพูม้า ชื่อว่า Mane 'n tail นะฮะ เป็นทั้ง Shampoo และ Conditioner เป็นแชมพูที่ดังมากในอเมริกานั่นแหละ คือจริง ๆ มีมานานแล้ว ใครที่ไปอเมริกาก็อาจรู้จัก อันนี้เป็นแชมพูที่ใช้ได้ทั้งคนและม้านะ อันนี้ไม่ได้พูดเล่นนะ พอเห็นใน Pharmacy แล้วขวดน่าตาเป็นแบบนี้ น่าตาแกดูท้าทายมากเลยอ่ะ ในเมื่อแกกล้าขายอยู่ในแผนก Beauty ฉันก็จะกล้าซื้อแกมาลองใช้ ข้างหลังเขามีเขียนบอกไว้เลยว่า วิธีใช้สำหรับ for human use สำหรับมนุษย์ใช้นะครับ
แล้วก็ for animal use นะครับ
ชัยเนี่ยเคยได้ยินมาแล้วล่ะว่ามีแชมพูม้า เพราะเพื่อนสนิทชัยก็คือ แอ๊ม นางบอกว่าแชมพูม้านี่ นางชอบใช้ตอนอยู่อเมริกา เพราะว่าเป็นแชมพูที่ทำให้ผมยาวเร็วขึ้น ชัยได้ลองใช้แล้วนะครับ
อันดับแรกเลยนะ กลิ่นสะอาดมากคุณ ตอนแรกเราก็ อุ๊ยใช้กับน้องม้ากลิ่นจะเป็นยังไง เป็นกลิ่นหอมสะอาด Conditioner จะมีกลิ่นคล้าย ๆ Body Lotion มากกว่า ตัวแชมพูเนี่ยชอบมากเลย สูตรที่ชัยใช้นี่จะเป็นสูตรที่ชื่อว่า The Original ใช้แล้วรู้สึกว่าผมเรานี่ หนาขึ้น มี Volume ขึ้น และจัดทรงง่ายขึ้น คนที่มีผมบาง ผมฟีบ ผมลีบแบนอะไรต่าง ๆ นี่ อันนี้ชัยว่าเวิร์ก ราคาอยู่ที่ 9 ยูโร 300 กว่าบาท ขวดโอเคเลยนะ 355 ml. ต่อขวด อันนี้เป็นอีกอันที่หน้าสนมาก ๆ เลย
ถ้าใครไปฝรั่งเศสนะ ชัยแนะนำให้ไปที่ร้านที่ชื่อว่า City Pharma นะครับ
เป็น Drug Store ที่ใหญ่มาก มีถึง 2 ชั้น แล้วก็เป็นร้านที่ขายถูกกว่า Pharmacy ทั่วไป
ถ้าใครไปซื้อหลายชิ้นเนี่ยก็จะเหมาะนะครับ
ที่จะไปที่นี่ อยู่ตรงย่านที่ชื่อ Saint Germain ร้านนี้เขาห้ามถ่ายรูปนะคุณ
แต่ง่าย ๆ ก็คือแคปหน้าจอเทปนี้ไปเลยนะฮะ กดดูมือถือได้
แต่ห้ามถ่ายรูปแค่นั้นเอง ข้อดีของร้านนี้คือว่า พนักงานที่คอยให้บริการลูกค้าทุกคนเนี่ย พูดภาษาอังกฤษได้หมด คุณสบายใจได้นะครับ
อย่าลืมนะฮะใครไปฝรั่งเศส เข้าปารีส อย่าลืมไปที่ย่าน Saint Germain แล้วก็ไป Pharmacy ที่ชื่อว่า City Pharma นะครับ
ร้านนี้ของถูก ของครบ แล้วก็พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ เชื่อชัย แล้ววันนี้นะครับ
ชัยอยู่ที่ NAPLAB นะครับ
Co-Napping Workspace ที่จุฬาซอย 6 นะครับ
ซึ่งเป็น Co-Workingspace ที่มีที่พักผ่อน มีห้องอาบน้ำ มี Snack Bar แล้วก็เปิด 24 ชั่วโมงเลย ที่สำคัญก็คือราคาไม่แพงด้วยนะครับ
ใครกำลังหาที่ทำงานที่สามารถนอนงีบได้ด้วย มาลองดูกัน เชื่อชัย