โปรโมชั่นพิเศษสุดคุ้ม ฉลองครบรอบ 4 ปี ช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ จาก L’Occitane

วันนี้ชัยจะไม่พูดเรื่องอะไรทั้งสิ้น นอกจากเรื่องของ Promotion ล้วน ๆ นะครับ
อันนี้ก็ได้เพิ่มขึ้นมาอีก ตายแล้วมันเยอะมากเลยฮะ คุณก็จะได้ Immortelle Reset
ถ้าคุณซื้อครบอีก 7,000 บาท คุณจะได้ของเพิ่มอีก 13 ชิ้น เผลอแป๊บเดียว L'OCCITANE Online เขามีอายุครบ 4 ปีแล้ว ในโอกาสครบรอบ 4 ปีของ L'OCCITANE เขาก็จัด Promotion ยิ่งใหญ่มาก ใครที่เป็นแฟน Immortelle Reset อยู่แล้ว หรือใครที่กำลังตัดสินใจว่าใช้ดีไม่ใช้ดี ตัดสินใจเลยฮะ เพราะว่าในปีนี้ ครบรอบ 4 ปีของ L'OCCITANE Online เขาทำไซซ์พิเศษขึ้นมา ก็คือไซซ์ 50ml. นะครับ
ซึ่งปกติเขามีแค่ไซซ์ 30ml. ราคา 2,600 บาท ไซซ์นี้ 50ml. อยู่ที่ 3,700 บาท จากมูลค่าจริง 4,300 บาท คุณ Save ไปเลยทันทีนะครับ
600 บาท คุ้มมาก ๆ ซึ่งมีขายแค่ Immortelle นี้ เขาเรียกว่าเป็น Pre Serum กันโทรม เป็น Essential Oil จากดอก Immortelle นั่นแหละ ก็จะหยุดเวลาให้ผิวของคุณสวยเป็นอมตะ ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ที่แน่ ๆ อันนี้ที่เลื่องชื่อ ที่คนทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลย เวลาได้ใช้ ก็คือ ไม่ว่าจะนอนน้อยแค่ไหน ใช้อันนี้ ตื่นมาเหมือนนอนครบ 8 ชั่วโมง เขามีขวดไซซ์ 50ml. ออกมาแล้ว มันคุ้มมาก ๆ เลยคุณ ซื้อไปเถอะ ยังไงก็ต้องใช้ เชื่อชัย ไซซ์พิเศษไม่ได้มีเฉพาะ Immortelle Reset เท่านั้น
ถ้าคุณเป็นแฟนของ L'OCCITANE จะรู้ว่า Divine Cream เป็นครีมในตำนาน ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย เหมาะสำหรับคนที่ กังวลเรื่องริ้วรอย หรือมีปัญหาเรื่องริ้วรอย ปกติแล้วไซซ์เขาจะอยู่ที่ 50ml. 4,950 บาท
แต่ตอนนี้เขามีไซซ์พิเศษ ดีไซน์สีทองแบบนี้ยังเป็น Limited edition ด้วย 65ml. นี้อยู่ที่ 5,390 บาท ซึ่งจริง ๆ แล้วมูลค่าของกระปุกนี้อยู่ที่ 6,435 บาท ฉะนั้น คุ้มมาก ๆ ปกติแล้วไซซ์ 50ml. เขาบอกว่า เปรียบเทียบความเข้มข้นของดอก Immortelle เท่ากับมีดอก Immortelle 600 ดอก อยู่ในนี้ว่าเข้มข้นแล้วนะ 600 ดอก
แต่พอเจอกระปุกนี้เข้าไป 65ml. เขาบอกว่าเข้มข้นเท่ากับ มีดอก Immortelle 800 ดอก นอกจากคุณจะประหยัด คุณยังได้ดอก Immortelle เพิ่มมาอีก 200 ดอก เข้มข้นขึ้นไปอีก คุ้มมาก ๆ เลย ต้องตำเชื่อชัย ทีนี้ในกลุ่มของ Immortelle ก็ยังมี กลุ่มที่ชื่อว่า Precious ด้วย ก็คือ Immortelle Precious นั่นเอง สำหรับคนที่ต้องการเริ่มดูแลเรื่องริ้วรอย เพื่อชะลอปัญหาผิวนะฮะ ให้ผิวของเราอ่อนเยาว์ ยืดอายุผิวให้นานขึ้น ซึ่งกระปุกนี้เด็ดมาก Immortelle Precious Cream 50ml. 2,750 บาท ส่วนผสมที่เด็ดมาก ๆ ของเขาเลยนะ ก็คือ Dynamic Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นขั้นกว่าของ Hyaluronic ทั่วไป คือปกติส่วนผสมที่เป็น Hyaluronic Acid เขาจะไปช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว
แต่กระปุกนี้ Dynamic Hyaluronic Acid เขาจะไปช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ แล้วก็ไปกระตุ้นให้ผิวสามารถ Generate Hyaluronic Acid ออกมาได้ดีขึ้น อันนี้ก็เลยจะทำให้ผิวชุ่มชื่น อิ่มเอิบ แล้วก็ดูฉ่ำน้ำ ในนี้นะครับ
ก็ยังมี Immortelle Essential Oil ด้วย ให้ความชุ่มชื่น ช่วยให้ผิวแข็งแรง แล้วก็ช่วย Anti-Aging นอกจากนั้นก็ยังมีตัวนี้นะครับ
เป็น Eye Cream Immortelle Precious Baume Yeux 15ml. อยู่ที่ 1,650 บาท ทำหน้าที่เหมือนกันเลยนะครับ
มี Dynamic Hyaluronic Acid ไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการ Generate Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติของผิวเรา ให้มันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ฉะนั้น ผิวรอบดวงตาก็จะชุุ่มชื่น ชะลอไม่ให้ริ้วรอยรอบดวงตามันมาเร็ว อันนี้ก็จะเวิร์กมาก ๆ เลย อันดับแรกเพียงคุณเป็นลูกค้าใหม่ L'OCCITANE Online เข้าไปสั่งซื้อสินค้าอะไรก็ได้ โดยไม่มียอดขั้นต่ำ เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Body กลิ่น Cherry Blossom
แต่ยังไม่พอแค่นั้นนะฮะ อันนี้สำหรับทุก ๆ คนเลย โดยเฉพาะแฟนเพจเชื่อชัย คุณจะได้รับไปเลยทันทีนะครับ
Hand Cream ในไลน์ที่ชื่อว่า Shea Butter เป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด ของ L'OCCITANE นะครับ
ใช้ดีมาก ๆ Hand Cream อันนี้
ถ้าคุณเป็นทั้งแฟนเพจเชื่อชัย แล้วก็เป็นลูกค้าใหม่ของ L'OCCITANE Online ด้วย ใส่โค้ด sweetwelcome แล้วก็ใส่โค้ด shaisure1000 รับไปเลยทันที 3 ชิ้นนี้ฮะ ฉันไปดีล Promotion มาให้ทุก ๆ คนแล้วนะฮะ ต้องรักษาสิทธิ์ของคุณดี ๆ นะฮะ เพราะว่า Promotion On Top เข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อความคุ้ม คุณต้องตั้งใจฟังดี ๆ นะฮะ Beginner จะได้อันนี้ 2 ชิ้น ใส่โค้ด Sweetwelcome ใส่โค้ด SHAISURE1000 เข้าไป ได้ชิ้นนี้เพิ่มขึ้นมา ต่อมาคุณ ถึงบอกว่าต้องรักษาสิทธิ์ของคุณนะฮะ
ถ้าคุณซื้อครบ 4,500 บาท 4 ชิ้นนี้มาอยู่แล้วนะครับ
ก็ Full ขึ้นมาอีก บวกขึ้นมานะฮะ ก็จะได้ ไปดีลมาให้อีกแล้วสำหรับแฟนเพจเชื่อชัย คุณก็จะได้ Immortelle Reset ขนาดพกพา
ถ้าอยากได้อันนี้จะต้องไวมาก ๆ
ถ้าคุณซื้อครบอีก 7,000 บาท คุณจะได้ของเพิ่มอีก 13 ชิ้น เมื่อกี้มานั่งคิด อุ๊ยตายแล้วคุณจะได้ของทั้งหมด 25 ชิ้นไปเลย เป็นของขวัญจาก L'OCCITANE ซึ่ง Promotion นี้มีเวลาแค่ 4 วันเท่านั้น ก็คือครบรอบ 4 ปี L'OCCITANE Online กับ Promotion 4 วัน คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้วนะฮะ ฉะนั้นอยากได้ต้องไว สวยไม่กลัว กลัวไว เชื่อชัย ดูสิดิฉันกอดแน่นมากเลย โอ๊ยคุณ Promotion เขาเยอะมาก สำหรับ L'OCCITANE Online ครบรอบ 4 ปี คือ
ถ้าคุณจะให้ชัยแนะนำว่า อยากจะเข้าไปช้อปแล้วซื้ออะไรดี นี่เลยนะฮะ
ถ้ายังเป็นน้องเด็ก ๆ ยังไม่มีริ้วรอยที่ลึกชัดมาก
แต่ว่าอยากดูแลเรื่องปัญหาริ้วรอยไว้ก่อน ชัยแนะนำเป็น 3 ชิ้นนี้ก็คือ Immortelle Reset ไซซ์พิเศษ 50ml. แล้วก็บวกกับ Immortelle Precious แล้วก็ Immortelle Precious Eye Balm 3 ชิ้นก็ประมาณ 8,000 บาทนะฮะ คุณก็จะได้ของขวัญเต็ม Stream เลยนะครับ

ถ้าเป็นรุ่นชัยหรือว่ามีริ้วรอยแล้ว ชัยก็จะแนะนำแบบนี้นะฮะ เพื่อความคุ้มค่า คุณก็ซื้อเป็น Immortelle Divine Cream ที่เป็น Limited Edition เป็นไซซ์พิเศษ กับ Immortelle Reset ขวด 30ml. คุณก็จะได้ไปเลยกระเป๋าเป้นะครับ
แล้วก็กระเป๋า Tote bag ได้ไปเลยนะฮะ รักแค่ไหนดูสิ ไปดีลมาให้ด้วย ไปแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะพุ่งไปช้อปด้วย เชื่อชัย

เซรั่มและครีมบำรุงเข้มข้น ปลุกพลังผิวให้เปล่งประกายราวกับได้ผิวใหม่ จาก TOM FORD

สาวก TOM FORD ทุกคนโปรดทราบ เตรียมอู้อ้ากันได้แล้ว เพราะว่าวันนี้ ชัยจะพาทุก ๆ คนมารู้จักกับสกินแคร์ใหม่ล่าสุด จาก TOM FORD ที่ชื่อว่า TOM FORD RESEARCH ซึ่งสกินแคร์ไลน์นี้ Mr. Tom Ford ซึ่งเป็นดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลก เขาลงไปจิ้มตัวนักวิทยาศาสตร์ ที่มาคิดค้นสูตรด้วยตัวเอง ใส่ใจในทุกดีเทลมาก ๆ แล้วเขาใช้เวลาในการคิดค้นสูตรกว่า 3 ปี ใช้เวลาพัฒนาสูตรถึง 75 สูตร จนออกมาเป็นสูตรนี้ที่ลงตัว ในฐานะที่ Mr. Tom Ford เขามาจากสายแฟชั่น ชัยก็จะเปรียบเทียบให้ฟังอย่างนี้แล้วกัน เอาเห็นภาพง่าย ๆ นะ เวลาที่เขาออกแบบชุดมาชุดหนึ่งใช่ไหมครับ
ก็ต้องมีช่างแพทเทิร์น แล้วก็ต้องมีการเลือกเนื้อผ้า มีการดีไซน์ชุด สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเลย ของชุด ๆ หนึ่งเลยที่คุณจะใส่ออกมาแล้วสวย มันอยู่ที่ช่างแพทเทิร์น ไม่ว่าคุณจะเลือกผ้าดีแค่ไหน หรือดีไซน์สวยแค่ไหน

แต่…

ถ้าช่างแพทเทิร์นไม่เก่ง ชุดที่คุณใส่ออกมา ก็จะผิดรูปผิดร่าง ใส่แล้วหุ่นก็ไม่สวยไม่เพรียว ผิวของเราก็เหมือนกัน คุณใช้รองพื้นดีแค่ไหน
แต่ว่า
ถ้าผิวของคุณ ไม่ได้รับการบำรุงที่ดีแล้ว การ
แต่งหน้าก็อาจจะไม่สามารถสวยเพอร์เฟกต์เต็ม 100 ก็เช่นเดียวกันกับ TOM FORD RESEARCH เขาช่วยทั้ง Energize ปลุกผิว Hydrate ให้ความชุ่มชื่น แล้วก็ Soothe ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น ดูกระจ่างใสขึ้น จะช่วยให้การ
แต่งหน้าของคุณ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น แล้วก็สวยเพอร์เฟกต์มากขึ้น
แต่จริง ๆ แล้วนะ ขอเรียกว่าพี่ TOM ได้ไหมฮะ พี่ TOM บอกอะไร ดิฉันก็จะเชื่อ เพราะว่ารักพี่ TOM มาก ๆ สิ่งที่พี่ TOM คิดมาแล้ว ต้องดีที่สุดเสมอ ซื้อไปเถอะ เชื่อพี่ TOM TOM FORD RESEARCH ตอนนี้เขา Launch ออกมา 2 ชิ้นแรก เห็นกล่องก็บัตรเครดิตพร้อม กล่องสวยมาก ดีไซน์ทุกอย่างเรียบหรูดูแพงมาก ๆ เลยนะฮะ ทั้ง 2 ชิ้นนี้ เขาเน้นใช้ส่วนผสมที่มี Caffeine Caffeine ในสกินแคร์เราจะรู้กันว่า มาช่วยปลุกพลังผิว ปลุกหน้าเหนื่อย ๆ โทรม ๆ ให้ดูสดใสขึ้น
แต่ทีนี้ทีมนักวิจัยของ TOM FORD RESEARCH เขาค้นพบว่า Caffeine นอกจากช่วยปลุกพลังผิวแล้ว ยังช่วยให้ความชุ่มชื่นผิวได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย เขาก็เลยเลือกสูตรผสมที่ สรุปออกมาเป็น 3 ส่วนผสมสำคัญ มาอยู่ในผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชิ้นนี้นะครับ
ส่วนผสมแรกก็คือ White Porcelain Cacao ส่วนผสมที่ 2 ก็คือ Caffeine และส่วนผสมที่ 3 ก็คือ Gyokuro Extract มาเจาะเป็นตัว ๆ คุณ White Porcelain Cacao เป็นโกโก้ สายพันธุ์จากประเทศเปรู ใครเป็นสาย Chocolate Lover คุณจะรู้ว่า โกโก้สายพันธุ์นี้เขานำมาใช้เป็นส่วนผสม ในการทำช็อกโกแลตระดับ Premium ช็อกโกแลตแพง ๆ หรู ๆ
แต่ White Porcelain Cacao จะบอกว่าหายากมาก เป็นเพียง 0.5% ของผลผลิตโกโก้จากทั่วโลก เป็นผงโกโก้ที่ช่วย Antioxidant ได้สูงมาก ๆ ช่วยลดการอักเสบของผิว แล้วก็ช่วยให้ผิวของเรา สามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้น ความเจ๋งก็คือ เขามี Caffeine แล้วก็มี Polyphenol ซึ่งเป็นตัวสำคัญเลยที่มาช่วย Antioxidant ให้ผิวของเราสามารถรับมือกับความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วก็ช่วยซ่อมแซมผิว ทำให้ผิวของเรา รับมือกับแสงแดด กับมลภาวะ กับปัจจัยต่าง ๆ ที่รุกรานผิวได้ดียิ่งขึ้น อันนี้แหละคือความเจ๋งมาก ๆ ของ White Porcelain Cacao ที่ได้จากประเทศเปรู คุณแล้ววิธีในการที่เขานำเอา White Porcelain Cacao มาใช้ อย่างกับงานฝีมือ อย่างกับงานโอตกูตูร์เลย ปกติเมล็ดโกโก้ที่เขาเก็บมา เขาก็จะเอามาเขย่า แล้วก็มาเป่าให้แห้ง อันนี้พอเขาเก็บมาได้ เขาก็จะมาล้าง ค่อย ๆ ล้างด้วยมือ ไม่ใช่ล้างด้วยเครื่องนะฮะ แล้วก็ปล่อยให้แห้งเอง เพราะว่าเวลา
ถ้าคุณทั้งเขย่า ทั้งเป่า ทั้งล้างด้วยเครื่อง ประสิทธิภาพของ Caffeine แล้วก็ Polyphenol ที่อยู่ใน White Porcelain Cacao มันก็จะลดลง นอกจากนั้นนะครับ
ก็ยังมีส่วนผสมของ Caffeine คือมาจากเมล็ดกาแฟนั่นแหละ มาช่วยปลุกผิว แล้วก็มาช่วยเพิ่มพลังงานผิว ชาร์จพลังงานผิว ช่วยสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วย แล้วก็ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนในผิวด้วย ทีนี้สุดท้ายก็คือ Gyokuro Extract จะบอกว่าเป็นชาเขียวสายพันธุ์คุณหนู ชาเขียวผู้ดีที่เขาจะไม่โดนแดดนะฮะ เขาต้องปลูกในที่ร่มนะครับ
เพื่อที่จะคงรักษาระดับของสารที่ชื่อว่า Theanine ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด สารที่ชื่อว่า Theanine มีคุณสมบัติในการ ลดการอักเสบของผิว แล้วก็ช่วย Antioxidant ให้กับผิวด้วย Gyokuro Extract เขาบอกว่าเป็นชาเขียวที่มีสีเขียวเหมือนหยก เป็นสีเขียวเข้ม ฉ่ำมาก ๆ นะครับ
ทั้ง 3 ส่วนผสมนะครับ
ไม่ว่าจะ White Porcelain Cacao Caffeine แล้วก็ Gyokuro Extract ทุกอย่างมี Caffeine หมด ชัยจะบอกว่าใช้แล้วเหมือนคุณได้นั่งจิบเอสเปรสโซ่ กับ Mr. Tom Ford เลยคุณ เพราะว่าเขาจะช่วยปลุกผิว ให้ผิวของคุณ ตื่น แล้วก็สดใสขึ้น เชื่อชัย
ถ้าคุณเป็นสายอ่าน Ingredient เวลาคุณหาข้อมูลหรือไปดู Ingredient จริง ๆ คุณจะเจอส่วนผสมหนึ่งที่ชื่อว่า Dimethicone ใน 2 ชิ้นนี้ Dimethicone เป็นสารชนิดหนึ่งในกลุ่มซิลิโคน ซึ่งชัยต่อสายตรงถึงคุณหมอเลยฮะ คุณหมอบอกว่าคุณชัย ไม่ต้องตกใจ Dimethicone เป็นสารชนิดหนึ่งในกลุ่มซิลิโคน ที่มีความปลอดภัยสูง เป็น Non-comedogenic ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ แล้วก็ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ซิลิโคนคุณหมอบอกว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คุณอาจจะต้องดูนิดนึงว่าเป็นซิลิโคนชนิดไหน

แต่…

ถ้าเป็น Dimethicone คุณหมอบอกว่าโอเค ใช้ได้ ซึ่งเขาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่เป็นพวกเบสหรือไพรเมอร์ วันนี้ก็ดูสิ ผิวจะฉ่ำแล้วก็ใสขึ้น ผิวมีความสะท้อนไฟ
แต่ไม่มันเงา แล้วก็ทำให้ผิวของเราดูชุ่มชื่นขึ้น โดยเฉพาะใครที่มีปัญหา
แต่งหน้า แล้วผิวกับรองพื้นไม่รักกัน วันนี้แหละฮะ เขาจะคืนดีกันด้วย TOM FORD RESEARCH เวลาทาแป้งทารองพื้นเขาก็จะซึม แล้วก็กลืนเป็นเนื้อเดียวกับผิว พูดไปก็เท่านั้นแหละคุณ พี่ TOM เขาเป็นคนดีเทลมาก ๆ ฉะนั้น อะไรที่เขาเลือก เขาคัดสรร เขาครีเอทขึ้นมาแล้ว มันต้องดีมาก ๆ พี่ TOM บอกว่าดี ชัยก็ว่าดี เชื่อชัย เปิดออกมาปุ๊บ Mr. Tom Ford ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ในเรื่องของงานดีไซน์เลยฮะ คุณฮะ อย่างกับงานศิลปะ ประติมากรรมแห่งผิวมาก ๆ เลย เห็นด้วยตากระทบนี่ก็ใจสั่นแล้วใช่ไหมฮะ สัมผัสคุณ เป็น Magnetic Lock ค่ะ
ไฮเทคไหมฮะ มันรื่นรมย์ในทุกสเต็ปของการใช้เลย อันนี้ชื่อว่า TOM FORD RESEARCH SERUM CONCENTRATE 20ml. อยู่ที่ 13,000 บาทนะฮะ ให้ดูเนื้อก่อน นี่เวลาใช้ไม่ต้องใช้เยอะมากนะครับ
ใช้แค่นี้เอง เป็นเซรั่มที่อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมเข้มข้นนะครับ

แต่ว่าเนื้อบางเบา แล้วก็ซึมเร็ว เคลือบผิวไปเลยในทันทีนะครับ
ให้ความชุ่มชื่น โดยเฉพาะใครที่มีปัญหา ในเรื่อง Texture ไม่เรียบเนียน หรือว่าผิวไม่ชุ่มชื่น จะต้องหลงรัก TOM FORD RESEARCH SERUM CONCENTRATE ขวดนี้นะฮะ เพราะว่านี่ ผิวชุ่ม ผิวนุ่ม แล้วก็ดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากจะมีส่วนผสม 3 อย่างซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม TOM FORD RESEARCH ในขวดนี้เขายังมี Glycolic Acid แล้วก็ Lactic Acid มาช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยทำให้ผิวของเราดูเรียบเนียนขึ้น นุ่มเนียนขึ้น ลดความหยาบกร้านของผิว ทำให้รูขุมขนดูละเอียดเล็กลง แล้วก็ช่วยให้หน้าของเรากระจ่างใสขึ้น นอกจากมี Glycolic Acid แล้วก็ Lactic Acid แล้ว ยังมี Peptide ก็จะมาช่วยในการลดเลือนริ้วรอยด้วย พอลงเซรั่มเข้มข้นขวดนี้เสร็จปุ๊บ อย่าลืมปิดล็อกให้ทุกอย่างอยู่ในผิว ด้วยครีมกระปุกนี้ กระปุกนี้คือ TOM FORD RESEARCH CRÈME CONCENTRATE 50ml. อยู่ที่ 15,000 บาทนะฮะ นี่แล้วเขามีพายมาด้วยนะฮะ เนื้อครีมผู้ดีมากคุณ ดูสิสะอาดแล้วก็ดูแพงมากเลย กลิ่นนี่เป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ เลยนะครับ
ไม่ได้มีกลิ่นของน้ำหอมรุนแรงอะไรทั้งสิ้น เป็นกลิ่นที่มีความสะอาด ให้ความรู้สึก Luxury เดี๋ยวจะลองเนื้อกัน ใช้ประมาณนี้นะฮะ ให้ดูเนื้อนะฮะคุณ สีชมพูผู้ดี Texture ก็โอ๊ยตายแล้ว เหมือนคุณได้แบบจับผ้าดี ๆ แพง ๆ มีความ Cashmere มาก ใช้แล้วผิวเราจะมีความฉ่ำ Velvet เหมือนผ้ากำมะหยี่ มีความฉ่ำเงานะฮะ แล้วก็ชุ่มชื่นนะครับ
TOM FORD RESEARCH CRÈME CONCENTRATE กระปุกนี้ ก็มีส่วนผสมนะฮะ ก็คือ White Porcelain Cacao Caffeine , Gyokuro Extract แล้วก็มีสารสกัดจากสาหร่ายสีเขียว มาช่วยปลอบประโลมผิว มาช่วย Antioxidant แล้วก็มี Hyaluronic Acid มาให้ความชุ่มชื่น แล้วก็มี Peptide มาช่วยลดเลือนริ้วรอยนะครับ
หลัก ๆ ตัวนี้จะมาช่วยทำให้ผิวดูสดใสขึ้น ปลุกผิว ชาร์จผิวให้ตื่นให้ดูเฟรชขึ้น ให้ดูกระจ่างใสขึ้น ให้ความชุ่มชื่นด้วย อย่างล้ำลึก ที่สำคัญก็คือว่า มาช่วย Anti-Aging ผิวด้วย เมื่อคุณใช้คู่กัน การ
แต่งหน้าของคุณ จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น และสวยขึ้น เชื่อชัย กำเงินแน่น ๆ นะฮะ เพียงคุณซื้อ TOM FORD RESEARCH SERUM CONCENTRATE 20ml. 13,000 บาทนะครับ
แล้วก็ TOM FORD RESEARCH CRÈME CONCENTRATE 50ml. 15,000 บาท ซื้อ 2 ชิ้นนี้คู่กัน รับของขวัญพิเศษไปเลยจาก TOM FORD ก็คือไพรเมอร์ขวดนี้ที่ชัย Love มาก ๆ ชื่อว่า Illuminating Primer ไซซ์จริง 30ml. มูลค่า 2,800 บาท
แต่ต้องบอกนะฮะว่าคุณมาจากรายการเชื่อชัย
แต่อย่าเพิ่งพุ่ง กำเงินไว้แล้วฟังก่อน ใครเป็นสาวก TOM FORD ใครเชื่อชัย อยากได้ต้องไว สวยไม่กลัว กลัวไว เชื่อชัย

เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เติมความสดใสให้ผิวที่อิดโรย จาก Aesop

จะบอกว่ากระปุกนี้ เขาได้คะแนนเกือบเต็ม 5 ในทุก ๆ เว็บที่พี่ไปดูมาเลยนะ ตอนแรกจะตกใจใช่ไหม
แต่พอเวลาคุณใช้คุณจะ Love จะบอกว่าแบรนด์นี้เขาเป็น Vegan 100% เลยนะคุณ หอมมาก วันนี้นะครับ
ชัยจะพาทุก ๆ คน มาแนะนำให้รู้จักกับสกินแคร์ระดับ High-end
8
00:00:23,480 –> 00:00:24,880
จากประเทศออสเตรเลีย ที่ชื่อว่า Aesop แบรนด์นี้ต้องบอกว่า Luxury มาก ๆ
แต่ว่าเป็นความ Luxury ที่มาพร้อมกับงานอาร์ต งานดีไซน์นะครับ
จะเป็นความ Luxury ที่เท่ ๆ คูล ๆ นิ่ง ๆ นะฮะ
แต่ทีนี้คำถามก็คือว่า ใช้แล้วดีไหม ใช้แล้วดีมากคุณ เดี๋ยวเล่าให้ฟังก่อนนะครับ
ว่าจริง ๆ แล้ว ชัยคุ้นเคยกับแบรนด์นี้เพราะว่า สมัยก่อนนี่นะฮะ ไปออสเตรเลียบ่อย ตอนสมัยเป็นลูกเรือนะครับ
เป็นแบรนด์ที่ไม่มีส่วนผสมของพาราเบนนะครับ
ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์ ไม่มีสีสังเคราะห์ ไม่ใช้ส่วนผสมจากสัตว์ หรือว่า ใช้สัตว์ในการทดลอง แล้วก็ไม่มีซิลิโคนด้วย ฉะนั้นจะบอกว่า ดีต่อใจนะครับ
ใช้แล้วก็ดีต่อผิวมาก ๆ เลยนะ วันนี้ชัยจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับสกินแคร์ Collection ที่ชื่อว่า Skincare+ จากแบรนด์ที่ชื่อ Aesop จากประเทศออสเตรเลีย ที่มีคำว่า Plus หรือ บวกนี่นะครับ
แปลว่า สกินแคร์คอลเลคชั่นนี่นะครับ
ให้ Benefit ให้ประสิทธิภาพมากกว่า สกินแคร์พื้นฐานทั่วไปของ Aesop นั่นเองนะ คิดค้นขึ้นมาเพื่อมาปั๊มผิวนะครับ
ที่ดูเหนื่อย ดูโทรม ให้กลับขึ้นมาดูมีชีวิตชีวา ดูสดใสนะครับ
เป็นตัวกู้วิกฤตผิวแบบเร่งด่วนเลยนะฮะ ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในทุกวันนี้ ที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง มลภาวะต่าง ๆ แล้วก็ความเครียด ไม่ว่าจะรถติด นอนน้อยทำงานหนัก ดื่มน้ำไม่พอ ไลฟ์สไตล์ที่สุดเหวี่ยง โภชนาการที่ขาดสมดุล อันนี้จะมาตอบโจทย์ทุกอย่างเลย สำหรับชีวิตที่รีบเร่งในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะมนุษย์ในเมืองหลวงอย่างพวกเรา คอลเลคชั่น Skincare+ จาก Aesop นะครับ
ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ 4 ชิ้นตรงหน้าชัย ชิ้นแรกก็คือ Damascan Rose Facial Treatment นะฮะ แล้วก็อีกชิ้นนึงก็คือ Lucent Facial Concentrate นะครับ
Perfect Facial Hydrating Cream นะครับ
กับอีกอันนึงก็คือ B&C Facial Balancing Gel นะฮะ แบ่งง่าย ๆ นะครับ
ก็คือเป็นเซรั่ม 2 ชิ้น แล้วก็ Moisturizer 2 ชิ้น ทีนี้ต่างกันยังไง เวลาแยก แยกมาเป็นคู่แบบนี้ คู่นี้ก็คือ Damascan Rose Facial Treatment กับ Perfect Facial Hydrating Cream นะฮะ จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความชุ่มชื่นนะครับ
แล้วก็ลดเลือนริ้วรอย อุดมไปด้วยวิตามินอี แล้วก็วิตามินซีนะครับ
ที่มาช่วยทั้งให้ความชุ่มชื่นนะครับ
แล้วกระตุ้นคอลลาเจน แล้วก็ซ่อมแซมผิว พร้อม Antioxidant ไปด้วยนะฮะ ให้ดูเนื้อก่อนแล้วกันนะครับ

ถ้าเป็น Damascan Rose นะครับ
เนื้อก็จะเป็น Serum in Oil คุณ คนที่ผิวแห้งมากจะต้อง Love นะฮะ
ถ้าคุณไม่ได้มีผิวแห้งมาก คุณก็สามารถหยดนิดหน่อยนะครับ
แล้วก็มาผสมกับทุก Product ได้ มาช่วยเติมความชุ่มชื่นแล้วก็ลดเลือนริ้วรอยให้กับผิวนะฮะ ชัยจะตั้งชื่อให้
แต่ละอันแล้วกันนะครับ
เวลาคุณไปซื้อ คุณจะได้บอกพนักงานง่าย ๆ อันนี้เซรั่มออยล์กุหลาบ เพราะเขียนว่า Damascan Rose นะครับ
ส่วนกระปุกนี้นะ
ถ้าคุณเป็นคนที่ผิวผสม ผิวธรรมดาถึงผิวแห้งนะครับ
แล้วชอบ Moisturizer ปิดล็อก หลังจากที่ใช้เซรั่มไปแล้ว กระปุกนี้เป็นเนื้อครีมที่ดีมาก คุณ เนื้อเนียนนุ่มนะฮะ ชัยจะให้ชื่อว่าเป็น ครีมเนย เพราะเนื้อเหมือนเนยนะครับ
แล้วสีก็ดูแบบว่า น่าใช้มากเลยคุณ คุณเอ๊ย เวลาลูบไป นี่นะฮะ คือเป็นกลิ่นหอมที่มีความ Unisex นะคุณ ความแมนไม่หดหายนะฮะ เวลาผู้ชายใช้ ผู้หญิงก็ใช้ได้นะครับ
เขาจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากเลย ชัยรู้เลยว่าเป็นกลิ่นของยางจากต้น Frankincense ซึ่ง ยางจากต้น Frankincense นี่มีคุณสมบัติเลื่องชื่อมาก ในการ Anti-Aging ในการเยียวยาผิวนะครับ
ในการลดอาการอักเสบของผิว ก่อนที่ผิวเราจะมีริ้วรอยนะครับ
ผิวจะมีการอักเสบก่อน ยางจากต้น Frankincense นะครับ
ในครีมเนยกระปุกนี้ ก็จะมาช่วยลดริ้วรอยได้ 2 ชิ้นนี้ที่ชัย Love มาก ในคอลเลคชั่น Skincare+ ของ Aesop ก็คือ 2 ชิ้นนี้คุณ ง่าย ๆ เลยคือมาเพื่อทำให้หน้าใส
ถ้าเกิดว่าคุณนอนน้อย ดื่มน้ำไม่เพียงพอนะครับ
ปาร์ตี้จัด หรือว่าเดินทางบ่อย หน้าอาจจะดูเหนื่อย ขาดน้ำ ไม่สดใส งัดนะฮะ กลับขึ้นมาด้วย 2 ชิ้นนี้เลยคุณ Lucent Facial Concentrate นี่นะครับ
เขาจะเป็นเซรั่ม เนื้อบางเบามาก ๆ อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มีความเสถียรนะครับ
ที่ช่วยในเรื่องของลดเลือนจุดด่างดำ แล้วก็ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน นอกจากนั้นยังมีสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงที่ชื่อว่า Sodium Carrageenan นะครับ
ช่วยโอบเอาความชุ่มชื่นเอาไว้ในผิว แล้วก็ยังมีวิตามินบี 3 นะครับ
มาช่วยเสริมให้ Skin Barrier ของเรา ให้แข็งแรงขึ้น Skin Barrier ก็คือปราการปกป้องผิวนั่นเอง ทำให้ผิวสามารถรับมือกับรังสี UV ได้ดีขึ้น ช่วยฟื้นฟูให้ผิวกลับมากระจ่างใส ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้งนะฮะ เดี๋ยวลองเนื้อให้ดูขวดนี้นะครับ
แม้ชื่อจะบอกว่า Lucent Facial Concentrate Concentrate นะฮะในเรื่องของส่วนผสม
แต่ว่าเนื้อนั้นบางเบาและซึมเร็วมาก ๆ คุณ ขวดนี้นะ ผู้ชายหรือผู้หญิงที่ชอบความบางเบา หรือใครที่หน้ามัน น่าจะ Love มาก ๆ เลย เพราะว่าซึมเร็ว
แต่ว่าเข้มข้น แล้วก็ให้ความชุ่มชื่นได้อย่างล้ำลึก ส่วนขวดนี้นะครับ
ชัยจะให้ชื่อว่าเป็น เซรั่มปั๊มหน้าใส ชิ้นที่ชัยชอบมาก Love มากที่สุดนะครับ
ก็คือกระปุกนี้ที่ชื่อว่า B&C Facial Balancing Gel คือตอนแรก เปิดออกมานะ ชัยเชื่อว่าทุกคนต้องเป็นแบบชัย คืออาจจะต้องรู้สึกว่า อุ๊ยนี่คืออะไรนะฮะ เอาไว้ใช้ทำอาหารหรือเปล่านะครับ
เพราะว่าเนื้อนี่นะฮะ มีความหนืด มีความเหนียวนะครับ
เหมือนกับคาราเมล หรือว่าน้ำผึ้งนะฮะ
แต่เวลาใช้นี่ คุณจะรู้สึกว่า อุ๊ยคุณได้เล่นสนุกไปกับสกินแคร์ ให้ตักออกมา ป้ายใส่มืออย่างนี้ใช่ไหมครับ
แล้วหลังจากนั้นนะฮะ ให้คุณวอร์มนะครับ
ไปให้ทั่วฝ่ามือนะครับ
แล้วคุณก็มากดที่ผิวเบา ๆ นะครับ
ตอนที่คุณทาครั้งแรกนี่ คุณไม่ต้องตกใจนะ คุณอาจจะรู้สึกว่าอุ๊ย ยังกองอยู่บนหน้า รู้สึกว่ายังไม่ซึม แป๊บเดียวเท่านั้นแหละนะครับ
เขาจะซึมเข้าไปที่ผิวเลยนะครับ
ใช้ตอนกลางคืน ตื่นมาผิวก็ชุ่มชื่นหน้าก็ใส
แต่ใช้ตอนเช้านะ มันเด็ดยิ่งกว่าก็คือว่า เหมือนผิวคุณนี่โดนแรปให้มีความเรียบเนียน สม่ำเสมอเท่ากัน ช่วยให้การ
แต่งหน้ากลายเป็นเรื่องง่ายคุณ ทารองพื้น ทาแป้งนี่จะไม่ตกร่องไม่กองรวม คล้าย ๆ เหมือนเป็น Primer ในตัวนะ ในความรู้สึกของชัย ที่ชอบมากที่สุดก็คืออะไรรู้ไหม เขาช่วยปรับสมดุลนะครับ
ให้ผิวที่มันมาก ๆ นี่นะครับ
กลับไปอยู่ในจุดที่สมดุล
แต่จริง ๆ แล้วใช้ได้กับทุกสภาพผิวนะครับ
เขามีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้น แล้วก็มีส่วนผสมของวิตามินบี ช่วยลดอาการอักเสบ
ถ้าเกิดว่าใครมีอาการที่ว่า สิวกำลังจะขึ้น หรือแพ้ ก็สามารถใช้ตัวนี้นะครับ
ช่วยปลอบประโลมผิวได้ นอกจากใช้เป็น Moisturizer ในชีวิตประจำวันแล้วนะครับ
คุณยังสามารถนำมาใช้เป็นเหมือนมาสก์ มาสก์หน้ากู้วิกฤตผิว ในชั่วโมงเร่งด่วนก็ได้เช่นกัน อันนี้ชัยจะให้ชื่อว่าเป็น มอยส์เจอร์เมเปิลไซรัป แล้วกันนะครับ
2 ชิ้นนี้จาก Skincare+ ของ Aesop ชัย Love มาก ๆ เลย เชื่อชัย คุณสามารถใช้เดี่ยว ๆ ก็ได้
แต่ละชิ้น ไม่จำเป็นต้องใช้อันนี้ แล้วมาใช้อันนี้ต่อ
แต่ด้วยความที่ชัยเป็นคนแบบว่า ไม่มีทางใช้ขวดเดียวแน่นอนนะครับ
สำหรับชัยนะ ชัยก็จะใช้ขวดนี้นะครับ
ที่เป็น Lucent Facial Concentrate ในตอนกลางคืนนี่ หลังจากล้างหน้าก็เริ่มจากขวดนี้ก่อนนะครับ
แล้วชัยก็จะซีลปิด ด้วยขวดนี้นะครับ
ซึ่งเป็น ตัวเติมความชุ่มชื่น แล้วก็ซ่อมแซมผิว ฟื้นฟูผิว พร้อมช่วยลดริ้วรอยด้วย ที่ชื่อว่า Perfect Facial Hydrating Cream ที่มีเนื้อเหมือนเนยกระปุกนี้ ชัยจะใช้แบบนี้นะฮะ
แต่พอตอนเช้าฮะ ชัยก็จะใช้ขวดนี้ เพราะเบาใช่ไหมฮะ แล้วชัยก็จะซีลปิดผิวนะครับ
ก่อน
แต่งหน้า ด้วยกระปุกนี้นะครับ
ที่ชื่อว่า B&C Facial Balancing Gel เพราะชัยรู้สึกว่า ใช้แล้วนี่ผิวมันดู มี Effect เหมือนผิวกระจกอะคุณ แล้วก็ช่วยให้การ
แต่งหน้านี่ง่ายขึ้น เพราะว่าเขาซีลปิด รูขุมขนอะไรต่าง ๆ ฉะนั้น เวลา
แต่งหน้าก็ไม่ตกร่อง ไม่กองรวม และไม่ต้องใช้รองพื้นเยอะ ส่วนน้ำมันนี่นะครับ
ชัยจะเอาไว้ใช้เวลาที่ไปในที่ ที่อากาศหนาวมาก ๆ หรือแห้งมาก ๆ ชัยจะเอามาผสมกับสกินแคร์ตัวอื่น สกินแคร์ที่คุณมีอยู่นะครับ
ผสมเข้าไป คือเขาเป็นทั้งเซรั่มเป็นทั้งออยล์ เขาจะช่วยให้ความชุ่มชื่นผิว อย่างล้ำลึก
ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้ง คุณเอาขวดนี้มาใช้ได้นะครับ
เพราะว่าขวดนี้จะบอกว่า เขาอัดไปด้วย Essential Oil ดี ๆ นะครับ
ถึง 11 ชนิดเลย เข้มข้นมากนะฮะ เป็น Serum in Oil อีกชิ้นนึงนะครับ
ที่คนผิวแห้งจะต้อง Love มาก ๆ เชื่อชัย คุณ
แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่า การที่เขาปรับราคาลงฮะ เดี๋ยวมาเริ่มทีละชิ้นนะฮะ กระปุกนี้นะครับ
Perfect Facial Hydrating Cream ให้ชื่อว่าเป็นครีมเนย 60 ml. อยู่ที่ 4,250 บาท อันนี้ เซรั่มออยล์กุหลาบ Damascan Rose Facial Treatment ขวดนี้นะครับ
25 ml. อยู่ที่ 2,500 บาท ขวดนี้นะครับ
ชื่อว่า Lucent Facial Concentrate นะฮะ เดินไปบอกพนักงานเลย เอาเซรั่มปั๊มหน้าใส 60 ml.นะครับ
อยู่ที่ 3,950 บาท ส่วนสุดท้ายนะครับ
มอยส์เจอร์เมเปิลไซรัป ชื่อว่า B&C Facial Balancing Gel 60 ml. อยู่ที่ 4,050 บาทคุณ
ถ้าพร้อมแล้ว เชิญเคาน์เตอร์ Aesop ดังนี้ฮะ ก็มีเฉพาะในกรุงเทพนะครับ
ก็คือที่เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลบางนา แล้วก็มีที่เซ็น พารากอน แล้วก็เอ็มโพเรียม เชื่อชัย

เซรั่มบำรุงผิวใต้วงแขน ระงับกลิ่นกาย ดูแลผิวใต้วงแขนให้กระจ่างใส จาก Vaseline

คุณเคยสงสัยไหมฮะว่า ผิวบริเวณนี้นี่นะฮะ ใต้วงแขนอยู่ใกล้กันกับหน้าเรามากเลย
แต่ว่าการดูแลเอาใจใส่หรือการบำรุง คนละเรื่องกันเลยนะครับ
ราวฟ้ากับเหว กับการดูแลใบหน้า ฉะนั้น เดี๋ยววันนี้เราจะมาคุยเรื่องปัญหาตรงนี้กัน น้องอาชิฮะ ปกติ ไม่ต้องไหว้ค่ะ
รายการเราไม่มีการเปิดใด ๆ ทั้งสิ้น พี่อยากจะถามน้องอาชินิดนึงว่า ปกติหนูใส่ใจผิวน้องจั๊กนี้มากน้อยแค่ไหน คือ
ถ้าเกิดย้อนความกลับไปตั้งแต่สมัยหนูยังเป็นวัยรุ่น คือตอนนั้นหนูไม่ดูแลอะไรเลย ทั้งหน้าและตัว
แต่ว่า หน้าด้วยเหรอ ใช่
แต่พอมาปัจจุบันหนูดูแลทั้งผิวหน้า ผิวตัว ผิวจั๊กแร้คือดีมาก คืออาชิเป็นคนมีกลิ่นตัว บอกเลย คือตอนเด็ก ๆ ชิก็ไม่รู้ เราก็เล่นออกกำลังกายตามปกติค่ะ
จนมารู้ว่าตัวเองมีกลิ่นตัวจากการที่เพื่อนมาบอกเรา และหลังจากนั้นก็เริ่มใช้ ด้วยการลองผิด ลองถูกมาตลอด ซึ่ง
แต่ก่อนหนูก็จะใช้อะไรที่เป็นลูกกลิ้ง โรลออนบ้าง ก็อายมากเลยนะ เพราะว่า
แต่ก่อนหนูชอบใส่เสื้อยืดสีขาวด้วย แล้วชุดนักเรียนเป็นสีขาว ลูกกลิ้งอะพี่ชัย ใช้แล้วมันเหลือง มันเป็นคราบ อ๋อเหรอ คืออยากถ่ายรูปให้ดูมาก ชุดนักเรียนหนูทุกตัวก็คือมีคราบเหลือง ใช่ ชุดนักศึกษาก็คือเป็นวงเหลืองเลยค่ะ
อุ๊ย ก็ดูไม่งามเนอะ ดูไม่งามอย่างแรงเลยค่ะ
ใช่ แปลว่าอย่างอาชิก็อาจจะดูแลผิวใต้วงแขน มาระดับนึงแล้วใช่ไหมฮะ ในขณะที่พี่แทบจะไม่เคยดูแลเลย ซึ่งล่าสุดพี่ไปเจอผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์นึง คุณเอ๊ย มันดีมาก ๆ ก็อย่างที่พี่ชัยบอกไปนะฮะ ตัวที่ชิอยากจะมาแนะนำวันนี้ก็คือตัวนี้เลยค่ะ
เป็น Vaseline Dry Serum นะคะ ซึ่งตอนแรกชิก็งงมาก ว่าเอ๊ย Dry Serum มันคือเซรั่มอย่างเดียวหรือเปล่า
แต่จริง ๆ แล้วมันคือเซรั่มบำรุงผิวใต้วงแขน
แต่ว่ามันช่วยเรื่องการระงับกลิ่นกายด้วยพี่ชัย คือมันเป็นนวัตกรรมที่แบบ คือมันเลิศมากอะ ใช่ คือนอกจากจะบำรุงแล้วยังช่วยไม่ให้เรามีกลิ่นตัว ใช่ค่ะ
มันเป็นเหมือน Skincare ที่ระงับกลิ่นกายไปด้วย ซึ่งมันเหมือนเราทำ 1
แต่ได้ 2 คือบางที
ถ้าเกิดชิจะต้องทาโลชั่นธรรมดา เพื่อให้ผิวกระจ่างใส หรือต้องมาทำทับด้วยโรลออน มันเหมือนยิ่งตีกัน
แต่ว่าอันนี้คือดีอย่างที่หนูบอก ว่ามันช่วยให้ผิวเรียบเนียน ซึ่งเค้าก็จะมี 4 สูตรด้วยกันเลย คือจริง ๆ แล้วถามว่าชิชอบทุกตัวไหม ชอบทุกตัว
แต่ว่า
ถ้าเกิดใครที่มีปัญหาเฉพาะจุดจริง ๆ ก็ควรเลือกสูตรให้มันเหมาะกับเรา อย่างง่าย ๆ เลยค่ะ
ก็คือสีชมพูตัวนี้จะเป็นอะไรที่ชิว่าครอบคลุมที่สุด ตัวนี้จะมีส่วนผสมของคอลลาเจนและวิตามิน B3 ซึ่งมันจะช่วยเรื่องให้ผิวเรียบเนียน และก็กระจ่างใสขึ้น สำหรับคนที่มีความคล้ำใต้วงแขน เพราะว่าจริง ๆ วิตามิน B3 นี่ก็เป็นส่วนผสม ใน Whitening ที่ จะอยู่ในพวก Skincare เป็นส่วนผสมที่เค้าใช้ในผลิตภัณฑ์พวก Brightening , Whitening ค่อนข้างเยอะ เพราะว่ามีประสิทธิภาพในการเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว อย่างอ่อนโยน ใช่ค่ะ
และอีกสูตรนึงเป็นสูตรสีฟ้า สูตรนี้ก็จะเป็นสูตรที่ชิชอบเหมือนกัน เพราะว่าตัวนี้จะช่วยระงับเหงื่อ ทำให้เหงื่อมันออกน้อยลง
ถ้าเกิดใครจะบอกว่า เฮ้ย มันไม่มีเหงื่อเลย มันเป็นไปไม่ได้เพราะว่า แหม คนเรา
ถ้าคนที่มีเหงื่อเยอะมาก ๆ อย่างหนูมีเหงื่อเยอะและก็มีกลิ่นอยู่แล้ว ฉะนั้น มันก็จะลดเหงื่อได้ ประมาณนึงเลยค่ะ
ซึ่งตัวนี้ก็จะมีส่วนผสมของคอลลาเจนและก็วิตามิน E ก็คือสูตรนี้ทำให้ผิวตรงนี้แห้ง ถูกไหมคะ ใช่ค่ะ
คือจริง ๆ ก็จะทำให้คุณมั่นใจขึ้นว่า อย่างน้อย ๆ ลดโอกาสที่จะจั๊กเปียก ใช่ไหมฮะ เต่าแตกอยู่ตรงนี้นะฮะ ฉะนั้น อันนี้ก็เหมาะ พี่ว่าผู้ชายน่าจะเลิฟสูตรนี้นะ ผู้ชายที่อาจจะเหงื่อออกเยอะหน่อย
แต่ต้องฟังก่อนนะว่า ไม่ใช่เหงื่อคุณจะไม่ออกเลยนะตรงนี้
แต่ว่ามันจะออกน้อยลง ทีนี้แล้วอีก 2 สูตรล่ะคะ อีก 2 สูตรก็จะมีสูตรสีม่วงค่ะ
White and Smooth สีม่วงก็จะช่วยเรื่องของ คนที่มีขนคุดหรือผิวตรงนั้นมีหนังไก่ มีตุ่ม ๆ ใช่ คือชิเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ คือเพื่อนชิที่นั่นก็ใช้สีม่วง คือที่ต้องบอกเลยว่า คนที่ใช้ชีวิตต่างประเทศ เค้าอาจจะไม่ได้สะดวกเหมือนบ้านเรา ที่ต้องไปทำเลเซอร์ เค้าก็จะโกนขน หรือว่าถอนขนเอง เค้าก็เลยใช้สูตรนั้น และก็สูตรสีเขียวนี่ก็คือชื่อว่า White and Repair สูตรสีเขียว White and Repair ก็คือตามชื่อเลย ก็คือช่วยในเรื่องความกระจ่างใสค่ะ
ใช่ และก็ช่วยซ่อมแซม บำรุงผิว ใช่
ถ้าเกิดว่าใครที่ผิวใต้วงแขนอาจจะ มีริ้วรอยนะครับ
เหี่ยวย่นมาก น่าจะเหมาะกับ White and Repair เพราะเค้ามีคอลลาเจนมาเติม มาทำให้ผิวตรงนั้นเรียบเนียนขึ้น แล้วก็ยังมี Multi Vitamin นะฮะ มาบำรุงเสริมด้วย ให้ผิวตรงนี้แข็งแรงขึ้นนะฮะ ก็จริง ๆ แล้วสำหรับคนที่ทำเลเซอร์มานะ ชิอยากจะให้ Maintain ก็คือใช้ Vaseline Dry Serum เพราะว่ามันจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น แนะนำเป็นสูตรสีชมพูตัวนี้เพราะมันมี วิตามินอี วิตามินบี 3 และก็คอลลาเจนค่ะ
ก็คือปรับผิวให้สว่างขึ้น และก็ควรใช้อย่างต่อเนื่อง มีสตินิดนึงก่อนจะทาว่า อันนี้นะฮะ ด้วยความที่ Packaging นะน้องอาชิ หน้าตาเหมือน Skincare ทาหน้า ทาตัว หลายคนอาจจะไม่มั่นใจในเรื่องประสิทธิภาพ ของการระงับกลิ่นกาย แล้วก็ในการลดเหงื่อ ไม่ต้องกังวลเลยนะฮะ เพราะว่า เค้ามีสารที่ช่วยลดระงับกลิ่นกาย และก็ลดเหงื่อ เหมือนกับในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทั่วไปเลย น้องอาชิเลยลองแล้ว น้องอาชิคือ Confirm ถูกต้องไหมฮะ Confirm เลยค่ะ
แล้วสำหรับใครที่ถามว่า เฮ้ย มันเหนียวเหนอะหนะ มันแห้งไวไหม
ถ้าเกิดว่าเทียบกับโรลออน บอกเลยว่านางแห้งไวกว่าโรลออนหลาย ๆ ยี่ห้อจริง ๆ ค่ะ
และก็
ถ้าพูดถึง Spray ชิบอกเลยว่ามันอาจจะไม่ได้แห้งไวเท่า เพราะว่าคือมันก็เป็นแบบ Dry Serum เนอะ
แต่ว่ามันอยู่ใน Speed ที่เรารับได้เลย คือห้อง
แต่งตัวชิไม่มีแอร์ และก็อยู่ประเทศไทยเป็นหลักอยู่แล้ว ทีนี้มันร้อนมาก ฉะนั้น ชิก็จะชอบใช้อะไรที่มันไม่เหนียวเหนอะหนะ และก็แห้งไว
แต่ว่าตัวนี้คือทาและก็เวลาใส่เสื้อยืดทับอะ มันก็คือไม่ติดเสื้อยืด คราบมันก็ไม่ติดค่ะ
คือตัวนี้ คือดีมาก และก็สำหรับคนที่อยากได้สักอันนึง ไม่รู้จะซื้อสีอะไรดี ชิแนะนำเป็นสีชมพูกับสีฟ้า คือเป็นสูตรที่ชิชอบแล้วก็คิดว่าน่าจะมีไว้ 2 สูตร เพราะว่ามันเหมาะกับกิจกรรมที่แตกต่างกันไป
แต่ละวัน คือสำหรับพี่ ตอนแรกก่อนที่พี่จะลอง พี่รู้สึกว่า ด้วยความที่เค้าเป็น บอกว่าเป็นเซรั่ม
แต่จริง ๆ แล้วเนื้อเอาจริง ๆ พอทาเข้าไป ก็รู้สึกว่าเหมือนครีมใช่ไหมฮะ
แต่พอลูบไปแล้วนี่นะฮะ เค้าก็แห้งซึมไปเลยนะครับ
เข้ากับผิวไปเลย ทีนี้ด้วยความที่เรารู้สึกว่า เป็นครีม ๆ แบบนี้ ผิวใต้วงแขนเราจะลื่น ๆ เป็นเมือก ๆ เป็นอะไรอย่างนี้หรือเปล่า เหมือนเวลาที่เราทา Body Lotion ปรากฏว่าไม่เลยคุณ แห้งหายไปเลยนะฮะ แล้วก็คือรู้สึกว่าเบาเหมือนไม่ได้ทาอะไร เดี๋ยวให้น้องอาชิสาธิตว่า ปริมาณการใช้ หนูใช้ประมาณเท่าไหร่คะ ก็ปริมาณการใช้ของชิ ชิก็จะบีบมาในปริมาณแค่จึ๊กเดียวอย่างนี้ ปึ๊บ อย่างนี้นะคะ แล้วน้องก็จะถูลงไปอย่างนี้ได้เลย ก็คือตัวหัว ใช่ค่ะ
ก็คือดีไซน์มาให้เหมือนเป็น Applicator วน เพื่อไม่ให้เลอะมือค่ะ
ใช่ค่ะ
แล้วก็ทาไปเรื่อย ๆ
แต่ว่าก็เลือกทาในปริมาณที่พอดี เพราะ
ถ้าเกิดว่ามันมากจนเกินไป ก็อาจจะ Over ค่ะ
พี่ชัย ให้ทาในปริมาณพอดี เหมือนเวลาที่เราทา Skincare เราก็ต้องทาในปริมาณพอดีของใบหน้าเรา ไม่ต้องทาเยอะเกินไป เพราะ
ถ้าทาเยอะเกินไปเค้าก็ซึมยากนะฮะ ฉะนั้น มันไม่ได้อยู่ที่ว่าผลิตภัณฑ์ไม่ดีนะ เพียง
แต่ว่าปริมาณที่เราทา เราอาจจะเยอะเกินไป คือบางคนกลัวไงว่า อาจจะเป็นคนที่มีกลิ่นตัวเยอะใช่ไหมฮะ ก็เลยคิดว่าจะต้องทาเยอะ ๆ ไม่เกี่ยวนะฮะ ฉะนั้น คุณทาในปริมาณที่พอดีกับวงแขนพื้นที่ของคุณ ก็เอาอยู่แล้วนะฮะ ใช่ค่ะ
แล้วก็อีกอย่างนึงสำหรับใครที่รักษ์โลกมาก ๆ แล้วรู้สึกว่าการใช้ Spray เป็นการสิ้นเปลือง มันหมดเร็วใช่ไหม ใช่มันหมดเร็ว แล้วมันก็เปลืองเงินด้วยนะคะ แล้วชิรู้สึกว่ามันมีความรู้สึกเย็น ๆ เหมือนที่พี่ชัยบอก ชิก็เลยไม่ค่อยชอบใช้ แล้วตัวนี้ก็คือหมดช้า และก็อยู่ในราคาที่ดีมาก คือสามารถใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัยจริง ๆ ผู้ชายก็ใช้ได้นะ ใช่ค่ะ
น้อง ๆ วัยเรียน วัยนักศึกษา ชิก็กล้าแนะนำเพราะว่า ราคาถูกมาก ที่บอกว่าราคาดี บอกพี่ให้ชื่นใจหน่อยสิว่าราคาเท่าไหร่คะ ราคา 30 ml. ก็คือ 69 บาทค่ะ
แล้วก็จะมี 50 ml. 119 บาท 50 ml. ก็จะมีทุกสีเลย
แต่ว่า 30 ml. ก็จะมี 2 สีนี้ค่ะ
ที่ได้เห็นกัน ก็คือสีฟ้ากับสีชมพูเท่านั้น ก็คือ 69 บาท อันนี้คือไซซ์เท่าไหร่คะ อันนี้คือ 30 ml. ค่ะ
อุ๊ยตายแล้ว แล้วหาซื้อง่ายมากใน 7-11ก็มี Super มีทุกที่ ถูกไหมฮะ เลอค่าราคาน่ารักสุด ๆ คุณนะฮะ
ถ้าใครอยากมีผิวใต้วงแขนกระจ่างใส เรียบเนียนและก็มั่นใจว่าไม่มีกลิ่นกายนะครับ
แล้วก็ช่วยลดเหงื่อด้วย เชิญ Vaseline Dry Serum เชื่อชัย เชื่อชัยค่ะ

เปิดกระเป๋าเม้ามอยกับสาวขาลุย พร้อมแชร์เทคนิคแต่งหน้าสำหรับคนเป็นฝ้า

วันนี้พี่ชัยมีแฟนเพจเป็นสาวขาลุยนะครับ
ชื่อคุณเหน่ง เธอเป็นข้าราชการไทย อยู่กรมการข้าว ที่ทำโครงการข้าวอินทรีย์กับเกษตรกรโดยตรง
แต่ก็แน่นอนนะครับ
ความเป็นขาลุยนี้ ทำให้เธอต้องลงไปคลุกคลีที่นาข้าวและโรงสี ผิวก็ต้องรับผลกันไป เดี๋ยววันนี้นะครับ
เธอจะมา Consult กับพี่ชัย คุณเหน่งทำอะไรฮะ ทำเกี่ยวกับอะไร เหน่งทำงานเกี่ยวกับโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ เป็นตัวกลางระหว่างเกษตรกร ผู้ผลิตข้าวอินทรีย์กับโรงสี – เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรม
– ใช่ค่ะ
ขออนุญาตโฆษณาของยโสธรค่ะ
เทปนี้เราไม่ได้มาขายข้าวนะ – อันนี้คือสิ่งที่คุณเหน่งรับผิดชอบ
– ใช่ค่ะ

ถ้าเกิดสนใจอยากจะซื้อข้าว หรือว่าผลิตภัณฑ์ที่เพาะปลูกแบบอินทรีย์ ก็ติดต่อไปที่ยโสธรค่ะ
ลงพื้นที่หรือก็เข้าไปใน Yasothon Organic ค่ะ
ทำงานกับเกษตรกรโดยตรง – ก็คือต้องโดนแดด
– ต้องโดนแดดค่ะ
โดนแดดตลอดเวลา โดยไลฟ์สไตล์ของเหน่งก็คือ ทะเล ปั่นจักรยาน เดินป่า – อ๋อนี่คือกิจกรรมที่ชอบ
– ใช่ค่ะ
แล้วก็งานด้วยส่วนหนึ่งก็ นี่แหละค่ะ
ฝ้ากระและจุดด่างดำก็มาอย่างที่เห็น สิ่งเหล่านี้
ถ้าคุณเหน่งทำแล้วแฮปปี้ มีความสุข ก็ควรจะทำต่อไปนะฮะ เพียง
แต่ว่ามันก็จะเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้นิดนึงว่าเราจะต้องโดนแดด ปัญหาของคุณเหน่ง
ถ้าให้ชัยดูด้วยตาเปล่า – ก็แน่นอนจะมีเรื่องของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอเนอะ
– ใช่ค่ะ
Hyperpigmentation พวกฝ้า ซึ่งของคุณเหน่ง ด้านนี้จะค่อนข้างชัดเจนกว่าอีกข้างนึง แล้วก็มีปัญหาในเรื่องของรูขุมขนกว้าง หลัก ๆ แค่นี้นะครับ
แล้วก็จะมีใต้ตาคล้ำบ้าง นอนดึกมากค่ะ
ตีหนึ่ง หรือ ตีสองค่ะ
เพราะว่าคนที่คุยด้วยเขาอยู่อีกฟากนึงของโลก – เราตื่นนอน เขานอน
– คนที่คุยด้วย เราก็ส่งออกเหมือนกันนะคะ – คุยกับผู้ชาย
– นอกจากเราจะส่งออกข้าวแล้ว เราก็ส่งออกตัวเองด้วยเช่นกัน มาที่ Shai Beauty Room แล้ว มา Consult กันก่อนว่า ตอนนี้คุณเหน่งใช้อะไรอยู่บ้าง ก็จะมีประมาณนี้ค่ะ

ถึงแม้เธอจะอยู่กลางทุ่งกลางนา มี Double Serum ของ Clarins นะฮะ อันนี้มี Génifique นะฮะ ของ LANCÔME แล้วก็มี Advanced Night Repair ของ Estée Lauder นะครับ
นี่แม้
แต่ Makeup Remover ไม่ค่อย
แต่งหน้านะ She ยังใช้ Bi-Facil Eye and Makeup Remover ในตำนาน ของ LANCÔME ด้วยนะฮะ อันนี้ที่ค่อนข้างโอเคนะครับ
ตัวนี้ก็เป็นตัวที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยแล้วก็ ช่วยให้ผิวดูใสขึ้น อันนี้ก็ให้ความชุ่มชื่นนะครับ
ตัว Advanced Night Repair แล้วตัว Double Serum ก็คือทั้ง Anti-Aging ทั้งให้ความชุ่มชื่น กันแดด อันนี้คือปกป้องสูงมากนะ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินว่า SPF 110 ใช่ค่ะ
110 จากอเมริกาค่ะ
ก็คือ
ถ้าต้องโดนแดดเยอะ ๆ แรง ๆ ทั้งวัน แล้วทาคอด้วยนะ อย่าลืมทาคอ ค่ะ
ได้ค่ะ
อะ ตัวนี้สิ จะบอกว่าทุ่มเพราะเชื่อชัยค่ะ
อันนี้ของ Kiehl's ชื่อว่า Clearly Corrective Dark Spot Solution ช่วยให้ฝ้าที่ไม่หนามากจางลงได้ กับอีกอันนึงก็คือตัว Spot Corrector White Lucent นะครับ
ของ Shiseido ต้องใช้อย่างต่อเนื่องนะครับ
ทั้งเช้าแล้วก็ก่อนนอน Clarins อันนี้เป็นตัวออยล์นะครับ
– ชอบไหมฮะ
– ชอบทาตอนเย็นค่ะ
– ชอบ
ถ้าตอนกลางคืน
– ค่ะ
ตอนกลางคืนก่อนนอน คุณเหน่งเป็นคนผิวแห้งใช่ไหม เหน่งเป็นคนชอบอาบน้ำอุ่น – ไม่ดี
– ที่สุดค่ะ
ผิวแห้งด้วยทำตัวเองแหละ มันไม่แห้งอย่างเดียวสิฮะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะฮะ นอกจากรังสี UV ที่ทำให้เกิดฝ้าแล้วก็กระ ทำให้สีผิวเข้มขึ้นนี่นะครับ
คุณคิดว่าการอยู่ในที่ ที่มีอุณหภูมิสูง เป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ้าหรือกระเข้มขึ้นหรือเปล่า โหวตเลยครับ
ในพาร์ทของสกินแคร์นี่นะฮะ ค่อนข้างโอเคแล้ว ทั้งให้ความชุ่มชื่นมีทั้งไวท์เทนนิ่ง แล้วก็มีทั้งกันแดดที่ค่อนข้างครอบคลุมนะครับ
จริง ๆ แล้วนี่ความร้อน เป็นตัวกระตุ้นให้ฝ้าและกระเข้มขึ้น การที่ไปอยู่ในที่ ที่ร้อน ๆ อบ ๆ อย่างเช่นในครัว อาจจะต้องเข้าไปในโรงสีข้าวบ้างใช่ไหมฮะ อันนั้นเป็นสิ่งที่คุณเหน่งเลี่ยงไม่ได้หรอก เพราะว่ามันเป็นอาชีพของเรา
แต่ทีนี้ ที่บ้านเลี่ยงได้ ยิ่ง
ถ้าอาบน้ำร้อนมาก ๆ มันก็จะยิ่งทำให้ อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้น ชัยเคยคุยกับคุณหมอบางคนนะครับ
เขาบอกว่า การที่อุณหภูมิในร่างกายเรามันสูงขึ้นอะ เหมือนไปกระตุ้นให้เมลานินในร่างกายของเรามันเร่งผลิตขึ้นมา ฝ้าก็เลยอาจจะชัดขึ้น เข้มขึ้น แล้วก็ในปริมาณพื้นที่ที่มากขึ้น เข้าใจแล้วใช่ไหมฮะ มันไม่ได้ทำให้ผิวแห้งอย่างเดียวนะฮะ
ถ้าชอบอาบน้ำอุ่นมากจริง ๆ ขออุ่นไม่ร้อน อุ่นขึ้นมามากกว่าอุณหภูมิปกตินึดนึง สัญญากันก่อนนะว่าต่อไปจะค่อย ๆ ลดปริมาณความร้อนลงนะฮะ จะพยายามค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลนะฮะ ครีมที่ดีที่สุดในการรับมือกับฝ้าและกระ ก็คือ ครีมรองพื้น และคอนซีลเลอร์ค่ะ
ตามธรรมเนียมนะครับ
หลังจากที่คุยกันเสร็จแล้ว เปิดกระเป๋าให้ดูเรียบร้อยแล้วนะครับ
เราก็จะมาช้อปปิ้งเพิ่มเติมกัน ในพาร์ทของสกินแคร์ ชัยอยากให้เพิ่มอันนี้เข้าไปหนึ่งอย่าง ก็คืออันนี้เป็น Resurfacing Facial Pads จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวของคุณเหน่งด้วยนะฮะ เดี๋ยวชัยเพิ่มกันแดด อันนี้ SK-II อันนี้จะเป็นกันแดดที่เนื้อเบามากนะครับ
แล้วก็ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย อันนี้อยากให้เพิ่มเข้าไปอีกนิดนึง ชอง Kanebo ชื่อว่า Illuminating Serum ทุกอย่างที่เลือกมา พยายามเลือกให้เนื้อเบาที่สุด อันนี้ก็เพิ่มเข้าไป เสร็จแล้ว ชัยให้อันนี้เข้าไปอีกอันนึงแล้วกันนะครับ
– ของ Laura Mercier
– ของ Laura Mercier นะครับ
เป็นสูตรที่ชื่อว่า Illuminating นะฮะ มี SPF 20 กันได้ทั้ง UVA และ UVB สำคัญที่สุดสำหรับงานนี้ก็คือครีมรองพื้น ของ Covermark นะครับ
ปกปิดได้ดี เชื่อชัย แล้วก็ Shai Beauty Room จะมาช่วยคุณเหน่งเอง ใน Episode นี้ เดี๋ยวตามเรามาฮะ ล้างหน้าเสร็จแล้วนะครับ
ชัยจะใช้ Pad ของ Zelens อันนี้นะครับ
เช็ดผิว อันนี้คือ เกือบเทียบเท่าการไปทำทรีตเมนต์ที่คลินิกเลย ชัยจะเริ่มด้วย Kanebo Illuminating Serum นะครับ
ก็จะเป็นตัวที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ด้วย ลดเลือนฝ้ากระได้ด้วย ให้ความชุ่มชื่น แล้วก็ช่วยทำให้ผิวของเราเป็นประกายขึ้น ชัยก็จะใช้ตัวนี้ไปเลยนะครับ
ของ SK-II เนื้อเบานะครับ
ก็จะมีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์นะครับ
ดูแลเรื่องเมลานิน เรื่องเม็ดสีผิวด้วยนะฮะ ชัยเลือกทุกอย่างพยายามเลือกให้เนื้อเบาที่สุด เพราะว่าต้องการให้เมคอัพที่เราจะลง มัน Long Lasting ด้วย เสร็จแล้วนะครับ
ชัยจะปรับสีผิว แล้วก็เพิ่ม Illuminate ให้ผิวนี่เป็นประกายขึ้น ช่วยปรับสีผิวให้มันดูกระจ่างใสขึ้น ของ Laura Mercier นี้ ชื่อว่า Tinted Moisturizer Illuminating นะครับ
มี SPF 20 ด้วย ก็เป็นการเลเยอร์ครีมกันแดดขึ้นมา จะเป็นสีที่สวยมากเลย จะทำให้ได้ลุคที่แบบ – Golden
– ผิวบ่มแดด ใช่บ่มแดด หลังจากที่ลง Tinted Moisturizer แล้วนะครับ
ชัยจะให้ใช้ตัว Tint ของ Oriental Princess นะครับ
ทาไปเลยที่แก้ม จะมาช่วยปรับสีฝ้าและกระนะครับ
ให้ดูจางลง คือแทนที่เราจะใช้เบสเมคอัพเป็นสีส้ม ใช่ไหมฮะ ชัยก็จะใช้ Tint เป็นสีส้มนี้ไปเลย ให้มันดูเป็นกลางมากขึ้น บริเวณที่ชัยทาก็คือตรงแก้มนะครับ
แล้วก็ตรงที่เป็นฝ้าเกือบทั้งหมดเลย ใช้แป้งผสมรองพื้นของ Acseine แล้วกันนะครับ
ปกติจะให้ใช้เป็นแป้งฝุ่นนะครับ

แต่อันนี้ซับความมันได้ดีมาก ตรงนี้ของคุณเหน่งจะแห้งอยู่แล้ว แล้วไม่ได้มีฝ้ามีกระ ชัยจะไม่ทา ชัยจะทาตรงนี้ บล็อกความมันเอาไว้เพื่อให้รองพื้นอยู่กับที่ไม่ขยับ ทีนี้ตัวรองพื้นก็คือตัว Extra Formula Covermark คุณเหน่งไม่ต้องใช้เยอะ วอร์มดี ๆ นะ ด้วยความที่เขาแน่นนะครับ
วอร์มเสร็จแล้ว คุณเหน่งต้องมาค่อย ๆ กด สามารถลงเป็นคอนซีลเลอร์ไปใต้ตาได้เลย มันจะเยิ้มระหว่างวันไหมคะ พี่ชัย เพราะว่าเหน่งทำงานมีเหงื่อ พี่ถึงบล็อกความมันไว้แล้ว ด้วยแป้งผสมรองพื้นเมื่อกี้ คือแป้งฝุ่นบล็อกความมันไม่อยู่ ชัยเลยเอาแป้งผสมรองพื้นบล็อกนะครับ
ครีมรองพื้นสูตรนี้นะครับ
มี SPF 30 ด้วย แล้วก็ PA++ แล้วก็เอามาทาริมฝีปากได้ เหมือนเป็นตัวกันแดดริมฝีปากไปด้วยเลย เดี๋ยวเราค่อยไปทาลิปสติกตอนหลัง ชัยจะเอาที่เหลือที่นิ้ว น้อยที่สุดด้วยนะ มาลูบเบา ๆ สามารถเอามาแต้มเปลือกตาได้เบา ๆ เพื่อให้เมคอัพมันติดนานขึ้น แก้มเราก็ใช้สี NARS Orgasm นะฮะ เขาบอกว่ายิ่งคนที่มีผิวเป็น Golden Skin แบบนี้นะครับ
ปัดแล้วจะสวยมาก เพราะว่าเขามี Pearl มี Pigment ที่เป็นสีทองประกาย มันจะปรับให้ผิวดูแพงขึ้น ดูโปร่งขึ้น ลูบที่กรอบหน้าผากนะครับ
ให้สีมันกลืนกัน ริมฝีปากต้องใช้ลิปที่มี SPF เหมือนกัน ชัยก็เลยเลือกอันนี้ให้ Sugar Spice Lip Treatment ของ Fresh นะฮะ อันนี้จะมี SPF 15 ก็ช่วยกันแดดได้ หันไปให้พี่ซี่ดูสิ พี่ซี่หนูสวยไหมคะ – พร้อมเซิ้งนะคะ
– โอ้โห สวยค่ะ
หลักสำคัญนะครับ
ของคุณเหน่งก็คือ ทำผิวให้โปร่ง ให้เบา ที่ใช้ไปวันนี้ก็จะมีตัวนี้ Illuminating Serum ของ Kanebo เป็น Moisturizer ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายแสงของผิวด้วยนะครับ
แล้วก็มี Whitening ด้วย แล้วก็ตัว Tinted Moisturizer อันนี้สวยมาก ใช้แล้วผิวมันจะดู Glow ดูฉ่ำ ได้ลุคแบบ Glass Skin เบา ๆ แล้วก็ – มี SPF ด้วยใช่ไหม
– ใช่มี SPF แล้วก็กันแดดด้วยอันนี้ด้วยนะครับ
SK-II
แต่ตัวที่เป็นนางเอก ก็ต้องยกให้ วันนี้ก็คือตัว Covermark Extra Formula ปิดทุกอย่าง ในขั้นตอนเดียวจบ
ถ้ามีปัญหาเยอะแบบของคุณเหน่ง ต้องใช้สูตรนี้
ถ้ามีปัญหาน้อยกว่าคุณเหน่ง อาจจะสีไม่ได้เข้มมากนะครับ
ในเรื่องของฝ้ากระ สามารถเปลี่ยนมาใช้อันนี้ได้นะครับ
ก็ดูจะเบาขึ้น ตัว Za ตัว Perfect Fit Concealer อันนี้ จะไม่ได้มีสีให้เลือกเยอะมาก
ถ้าเกิดว่าผิวเข้มแบบคุณเหน่ง ชัยก็เลยมาเลือกใช้เป็น Covermark Extra Formula นะครับ
ซึ่งมีเบอร์ 07 สำหรับคนที่ผิวเข้มหน่อยแบบคุณเหน่งนั่นเอง เหนือสิ่งอื่นใดนะครับ
ชัยก็จะต้องมีแป้งผสมรองพื้น สำหรับคนที่ต้องอยู่ Outdoor เยอะๆ นะครับ
หรือว่าทำงานกลางแจ้งนาน ๆ อันนี้มาใช้หลังจากที่บำรุง หรือลง Tinted Moisturizer ไปแล้ว เพื่อบล็อกให้ผิวนี่ ไม่มีน้ำมันออกมา ซับความมันเอาไว้ แล้วค่อยลงรองพื้น มันจะเหมือนเป็นการ
แต่งหน้าย้อนศรนะครับ
เพราะปกติ เราลงรองพื้นแล้วเราค่อยลงแป้งถูกไหมครับ
อันนี้ชัยจะลงแป้งก่อนแล้วชัยจะค่อยลงรองพื้น อันนี้ก็จะเป็นเคล็ดลับส่วนตัวนะครับ
จะทำให้รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ที่เราจะลงมันอยู่กับที่ ไม่ขยับ คิดว่าทำได้ไหมฮะ จะพยายามค่ะ
คุณเหน่งนะครับ
ก็กลับไป
แต่งดู เดี๋ยวถ่ายรูปไว้แล้วกันนะ
ถ้าจะไปซื้ออะไรต่อ จำได้แล้วค่ะ
จำได้ ๆ ถ่ายรูปส่งมาให้พี่ชัยดูก็ได้ เดี๋ยวพี่ชัยช่วยตรวจการบ้าน วันนี้ขอบคุณ คุณเหน่งมากเลยนะครับ
ที่อุตส่าห์บินมาจากร้อยเอ็ด ก็
ถ้าเกิดว่าใครที่มีปัญหาเดียวกันกับคุณเหน่ง มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องอยู่กลางแจ้งนะครับ
ทำงานกลางแดด
แต่ว่าอยากจะปกปิด ก็ลองเอาเคล็ดลับหรือว่า สเต็ปต่าง ๆ ที่ชัยสอนวันนี้ไปใช้ดู ใน Episode นี้นะครับ
หวังเหลือเกินว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้หญิงหลาย ๆ คน ให้ทุกคนสวยขึ้น ดูดีขึ้น เชื่อชัย เชื่อชัยค่ะ

สกินแคร์ดูแลผิวระดับพรีเมี่ยม เพื่อผิวเปล่งประกายสดใส จาก Clé de Peau Beauté

วันนี้เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน เรื่องสกินแคร์ไลน์ใหม่ของ Clé de Peau Beauté
ถ้าพูดถึง Clé de Peau Beauté เราคงจะนึกถึงอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ความ Luxury all the way วันนี้ก็เช่นกันนะครับ
ชัยจะพาทุกคนมารู้จักกับ สกินแคร์ไลน์ใหม่ ที่มีชื่อว่า KEY RADIANCE CARE ซึ่งชัยได้ลองแล้วต้องบอกว่า ทุก ๆ คนฮะ ดูเทปนี้จบแล้วกำเงินให้แน่น ๆ นะครับ
เชื่อชัย
ถ้าคุณรู้จัก Clé de Peau Beauté เขาจะมีไลน์ ของสกินแคร์ที่เป็นเบสิคพื้นฐานที่ชื่อว่า Basic care ตอนนี้ได้มีการปรับรูปโฉมใหม่ เปลี่ยนชื่อมาเป็น Key Radiance care เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนนะ ที่คงด้อม ๆ มอง ๆ เดินอ้อมไป อ้อมมา เคาน์เตอร์ Clé de Peau Beauté อยู่นานแล้ว
แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกว่า โห Luxury จังเลย สู้ไม่ไหว ไม่กล้า ปัจจุบันนี้ Clé de Peau Beauté เขาปรับสูตรสกินแคร์ ไลน์เบสิค ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย เพิ่งเรียนมหาลัยก็สามารถใช้ได้แล้ว เพราะว่าเป็นตัวที่จะช่วยเตรียมผิว สร้างพื้นฐานของผิวที่ดีไว้ตั้งแต่แรก ๆ เลย ยัง Luxury เหมือนเดิมนะ
แต่ราคานั้นไม่ถึงหมื่นต่อชิ้น กรี๊ด ดีใจ ในสกินแคร์ไลน์ใหม่ ที่ชื่อว่า KEY RADIANCE CARE ของ Clé de Peau Beauté เขามีส่วนผสมที่ชื่อว่า Skin-Empowering Illuminator ซึ่งอันนี้จะเป็นส่วนผสมที่มาช่วยในเรื่องของโทนสีผิว ให้สม่ำเสมอขึ้น สดใสขึ้น ช่วยปรับเนื้อผิวให้เรียบเนียนขึ้น แล้วก็ช่วยในเรื่องของความกระชับ ยืดหยุ่นด้วย 3 อย่างนี้ ก็เป็นปัจจัย ในการที่จะทำให้ผิวของเราดูดี ดูอ่อนเยาว์ แล้วก็ดูสดใส ใน Skin-Empowering Illuminator เขาดึงเอา 3 อย่างหลัก ๆ ที่มีอยู่ใน Illuminating Complex Ex ที่มีอยู่ใน LA CRÈME ครีมในตำนานออกมานะครับ
ก็คือ Platinum golden silk essence ซึ่งได้จากหนอนไหมสีขาวของประเทศญี่ปุ่น แล้วก็หนอนไหมสีทองจากประเทศไทย มาผสมกัน หนอนไหมสีขาวจากญี่ปุ่น เขาจะช่วยรับมือกับความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี ส่วนหนอนไหมสีทองจากประเทศไทย จะรับมือกับรังสี UV ความร้อน ได้เป็นอย่างดี อันนี้เป็นเส้นไหม มาจากรังไหมปกติทั่วไป ก็จะเห็นว่ามีความแข็งกระด้างอยู่ อีกนิดนึงก็จะเป็นฟางแล้วนะฮะ
แต่ทีนี้ คุณเห็นอันนี้ไหมฮะ อันนี้เป็นผลผลิตที่ได้ออกมา ก็จะเห็นว่าเป็นเส้นไหม ที่มีคุณภาพสูง เงางาม แม้
แต่วิธีการ ในการที่เขาเลือกใช้ตัวหนอนไหม เขาก็เลือกเอาที่ดีที่สุด แล้วยังเอามาผสมกัน เกิดเป็นหนอนไหมพันธุ์ใหม่ ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Clé de Peau Beauté เขาคิดค้นวิจัยมาแล้วว่า ทำให้ผิวของเราชุ่มชื่น เก็บกักน้ำไว้ในผิว ได้ยาวนานขึ้น นอกจาก Platinum golden silk essence แล้ว ก็ยังมี Japanese pearl extract ช่วยในเรื่องของความชุุ่มชื่น นอกจากนั้นก็ยังมี Theanine จะเป็นตัว Antioxidant ช่วยให้ผิวของเรารับมือกับปัจจัย มลภาวะภายนอกได้ดีขึ้น เป็นเหมือนภูมิคุ้มกันผิวนั่นเอง ยังมีส่วนผสมพิเศษ เพิ่มเข้ามาอีก 2 อย่างนะครับ
ก็คือสารสกัดจากใบชิโสะสีแดง ซึ่งเม็ดสีสีแดง ที่ได้จากใบชิโสะสีแดง มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวของเรารับมือกับรังสี UV ได้ดีขึ้น แล้วก็ไปช่วยฟื้นฟู การไหลเวียนในผิว พอผิวเราไหลเวียนดี หน้าก็จะใส ทุกอย่างมันก็จะดูดีขึ้น นอกจากนั้น ก็ยังมีสารสกัดจากโสมตังกุย เขาเลือกเอาเฉพาะส่วนผสมที่ มาจากรากแก้วของโสมตังกุยนะครับ
มาเป็นส่วนผสม ซึ่งเขาวิจัยออกมาแล้วว่า มีคุณสมบัติในการที่ช่วยกระตุ้น คอลลาเจนในผิวได้ดีมาก ๆ เลย เป็น Antioxidant อีกอย่างหนึ่งด้วย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น อยู่ในนี้ฮะ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Collection ใหม่ ที่ชื่อว่า KEY RADIANCE CARE จาก Clé de Peau Beauté ชัยใช้แล้วชอบมาก อันนี้ก่อนเลยแล้วกัน LE SÉRUM ชอบมาก
ถ้าคุณเป็นแฟน Clé de Peau Beauté อยู่แล้ว คุณอาจจะคุ้นเคยกับ LE SÉRUM อีก Packaging หนึ่ง ที่เป็นเหมือนเพชร ดูมีเหลี่ยมมีมุม ตอนนี้เขาปรับมาเป็น Packaging นี้แล้ว เป็นเซรั่มที่แทบจะบอกว่า ช่วยทุกอย่างเลย ทำให้หน้าใสขึ้น อันนี้ที่รู้สึกเลยนะ ผิวที่เคยหมอง ๆ ซีด ๆ กลับสดใสขึ้น ที่สำคัญก็คือว่าช่วยในเรื่องของความกระชับผิว ช่วยความชุ่มชื่นด้วย ใน Collection นี้นะ
ถ้าคุณจะต้องเริ่มอย่างเดียว คุณมี Budget ไม่เยอะ กรุณามาที่ขวดนี้ก่อนเลยนะฮะ LE SÉRUM อีกอย่างหนึ่งที่ชัยก็ชอบมากที่สุด กำเงินแน่น ๆ คุณเอ๊ยชอบมาก เขามีถึง 2 สูตร
ถ้าสำหรับสูตรที่เป็นผิวแห้งนะครับ
จะชื่อว่า HYDRO-SOFTENING LOTION N ช่วยให้ผิวนุ่มขึ้น ชุ่มชื่นขึ้น ส่วน HYDRO-CLARIFYING LOTION N ก็จะเหมาะกับคนที่ผิวผสมถึงผิวมันนะครับ
ก็จะช่วยให้ผิวของเราสมดุลขึ้น ในขณะเดียวกันก็ชุ่มชื่นด้วย
แต่ไม่ทำให้หน้ามัน ไม่ว่าจะสูตรผิวมัน หรือสูตรผิวแห้งก็ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย ทางแบรนด์แนะนำว่าให้ใช้กับสำลี
ถ้าจะใช้สำลี กรุณาเลือกสำลีแบบ Clé de Peau Beauté นี้นะฮะ เพราะสำลีที่ทอมาอย่างดีเหมือนผ้า แม้
แต่สำลีเขาก็มีความ Luxury มาก ๆ เลย จะใช้กับสำลีก็ได้ หรือจะไม่ใช้กับสำลีก็ได้ สำหรับชัยนะ เป็นคนชอบใช้ฝ่ามือมากกว่านะครับ
บีบออกมา เสร็จแล้วกรุณาลูบไปให้สุดมือแบบนี้ แล้วก็ 1 2 บนล่าง ชัยว่าแบบนี้่ทาแล้ว สกินแคร์จะซึมสู่ผิวได้ดีนะครับ
แล้วก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสกินแคร์ แล้วก็ไม่ทำร้ายผิว เป็นการถนอมผิวไปในตัว Clé de Peau Beauté อันนี้ใช้ดีมาก ๆ 170ml. 3,900 บาท แบบจะบ้าเหรอ นี่ Clé de Peau Beauté รึเปล่า ใช่ จริง ๆ ด้วย ปรับทั้งราคา ปรับทั้งสูตร ส่วนผสมดี ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย
แต่ว่าราคาน่ารักมาก ๆ เข้าถึงง่ายด้วย คุณควรจะโดน หลังล้างหน้าเสร็จแล้ว คุณก็ควรจะมีน้ำตบ จากนั้นคุณก็ควรจะมีเซรั่ม หลายคนถามชัยว่า
ถ้าเซรั่มมันดีมันเด็ดขนาดนี้ หนูจบแค่ที่เซรั่มได้ไหม สำหรับชัยนะ เซรั่ม ดี เข้มข้น
แต่ว่าบางที
ถ้าเราไม่มีตัวที่ปิดจ็อบ ซีลปิดอีกทีหนึ่ง เซรั่มอาจจะระเหยไปได้ โดยเฉพาะเรานอนห้องแอร์ในตอนกลางคืนถูกไหมฮะ ควรจะมี Moisturizer ที่เนื้อมีน้ำหนักขึ้นมามากกว่าเซรั่ม มาซีลปิดล็อกนิดนึงนะครับ
อันนี้ก็จะมี EMULSION EMULSION ก็จะมี 2 สูตรนะครับ
สูตรสำหรับกลางวัน จะมี SPF25 แล้วก็ PA+++ อันนี้ก็จะได้เลเยอร์ค่าปกป้องผิวจากแสงแดดไปด้วยในตัว ขวดสีขาวจะเจ๋งตรงที่ว่า เวลาใช้ก่อน
แต่งหน้า จะช่วยให้การ
แต่งหน้าง่ายขึ้น ช่วยให้ Make up Long-lasting มากขึ้น ส่วนตอนกลางคืนก็จะช่วยทั้ง ดูแลในเรื่องของความชุ่มชื่น ช่วย Anti-Aging ไปในตัว ให้คุณตื่นมา พร้อมกับหน้าที่ใสแล้วก็เนียนนุ่ม ดูง่าย ๆ กลางวันสีขาว กลางคืนก็สีเป็นน้ำเงินเข้ม เนื้อในตอนกลางวันนะฮะ เนื้อเบามากคุณ ผู้ดี กลิ่นมีความแบบว่า Japanese สุด ๆ ไปเลย แล้วซึมดีมากคุณ ทีนี้มาดูเนื้อ EMULSION แบบตอนกลางคืนบ้างนะครับ
จะนุ่มเนียน สดชื่นมากเลยนะฮะ กลิ่นสะอาดคุณ กลิ่นเหมือนแบบ เศรษฐีญี่ปุ่นมาก สำหรับราคาของ Moisturizer ที่เป็นเนื้อ EMULSION
ถ้าขวดสีขาวสูตรสำหรับกลางวัน 125ml. ราคาอยู่ที่ 4,800 บาท ส่วนขวดสีน้ำเงินนะครับ
สูตรสำหรับกลางคืน 125ml. อยู่ที่ 5,300 บาท ชัยว่าใช้ได้แบบ 4-5 เดือนเลยนะ คือใช้ได้นาน
ถ้าเป็นแบบว่า ผิวแห้งมาก ๆ นะครับ
หรือใครที่เป็นผู้ใหญ่หน่อยอาจจะชอบเนื้อครีม ชัยนี่แหละ ตอนกลางคืนชอบทาเนื้อครีมมาก เพราะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น แล้วก็นุ่ม แล้วก็เนียนขึ้น ก็จะมี 2 สูตรเช่นกัน Day กับ Night เหมือนกันเลย ตัวเนื้อครีม กระปุกสีขาวนะครับ
50ml. อยู่ที่ 4,800 บาท กระปุกสีน้ำเงินนี้ 50ml. จะอยู่ที่ 5,300 บาท เนื้อครีมนะครับ
สำหรับตัว Day ดูสิคะ เนื้อครีมนี่คุณจะต้องหลงรัก เพราะทั้งเนียน ทั้งนุ่ม อุ๊ย เนื้อครีมกลิ่นหอมขึ้นไปอีก ตายแล้ว ใช้ได้นาน เพราะว่าเนื้อครีมเขาเข้มข้น เราไม่ต้องใช้เยอะ ตอนกลางคืน ทาข้างนี้บ้าง ทำงานหนักแล้วเนอะ เติมความ Luxury ให้ชีวิตของเรานิดนึงนะฮะ
ถ้าใครที่มีผิวแห้ง หยาบกร้าน
แต่งหน้าไม่ติด เจอ Clé de Peau Beauté ที่เป็นกระปุกสีขาวเนื้อครีม หรือกระปุกสีน้ำเงินนี้เข้าไป ทุกอย่างจะนุ่มขึ้น มันจะเหมือนฟูขึ้นมาเลย ลองเลือกดูกันว่าคุณชอบเนื้อที่เป็น EMULSION หรือว่าเนื้อครีม
แต่ที่แน่ ๆ นะ ชัยใช้ทุกอย่างเลย ชอบมาก สรุปง่าย ๆ KEY RADIANCE CARE ของ Clé de Peau Beauté เป็นสกินแคร์ Collection บำรุงผิวพื้นฐาน ที่จะช่วยเสริมสร้างคุณภาพผิวที่ดีตั้งแต่วันนี้ เพื่อชะลอริ้วรอย แล้วก็ยืดอายุผิวของเรา เปรียบเทียบนะครับ
ผิวเราที่เคยเป็นอย่างนี้ปกติ
ถ้าดูดี ๆ ก็จะดูไม่สมูท ไม่ฉ่ำ มีความแห้ง มีความไม่สดใสก็คือซีด ๆ พอคุณเจอ Clé de Peau Beauté เข้าไป จะกลับกลายเป็นอย่างนี้ เหมือนเป็นเส้นไหมที่มีความ Luxury มีความแพง มีความฉ่ำ มีความเงา ผิวของคุณจะดูสุขภาพดี มันจะเปลี่ยนเลยนะครับ
แล้วคุณจะ
แต่งหน้าง่ายขึ้น ผิวจะดูสวยขึ้น เชื่อชัย ชัยเชื่อว่ามีหลายคนอยากใช้ เป็นหนึ่งในสกินแคร์ในฝันของหลาย ๆ คน ตอนนี้สกินแคร์ในไลน์ที่ชื่อว่า KEY RADIANCE CARE จาก Clé de Peau Beauté มีวางจำหน่ายแล้วทั้ง 10 สาขา ที่กรุงเทพฯ 9 สาขา และที่เชียงใหม่ 1 สาขา สำหรับใครที่ไม่สะดวก แล้วก็เป็นสายช้อปปิ้งออนไลน์ ตอนนี้ยอด Pre-Order เยอะมาก อยากได้ต้องไว สวยไม่กลัว กลัวไว เชื่อชัย

พูดคุยกับ JUNG SAEM MOOL เมคอัพอาร์ติสต์และเจ้าของแบรนด์เคบิวตี้ชื่อดัง จากเกาหลี

วันนี้รู้สึก VIP สุด ๆ เลยคุณ เพราะว่าชัยได้มีโอกาสมาสัมภาษณ์ คุณ Jung Saem Mool นะครับ
ซึ่งเป็น Celebrity Makeup Artist ชื่อดัง และมีอิทธิพลมากที่สุดคนนึงในเกาหลีเลยก็ว่าได้นะครับ
และก็เป็นเจ้าของแบรนด์นะครับ
Jung Saem Mool นะครับ
ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเคยฝากคนหิ้ว Cushion , Lipstick จากที่เกาหลี ตอนนี้ไม่ต้องแล้วนะครับ
เพราะว่าตอนนี้ Jung Saem Mool มาเปิด Shop ที่ประเทศไทยแล้วนะฮะ คำถามแรกก็คือว่า Lipstick สีอะไรฮะ อยู่บนปากของคุณ Just Red จริง ๆ ตอนแรกแอบทายไปแล้วนะฮะ ทายถูกด้วยนะครับ
และมันเป็นลิปสติกแบบ Matte ใช่ไหม ใช่ค่ะ
Air Matte อ๋อ คือเนื้อบางเบา ใช่บางเบามาก ๆ อุ๊ยตายแล้ว ชอบชื่อ I Love The Name Air Matte Just Red Air Matte ปรัชญาในการ
แต่งหน้าของคุณ Jung Saem Mool คืออะไร เพราะว่าจริง ๆ แล้วจากที่ดู คุณเค้า
แต่งหน้าน้อยมากเลย มีแค่ลิปสติกมั้ง แล้วก็อาจจะมีผิวนิดหน่อย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนค่ะ
ว่า ฉันก็มีประสบการณ์ในการ
แต่งหน้ามามากกว่า 30 ปี
เพราะฉะนั้น ฉันจะมีเทคนิคเกี่ยวกับการ
แต่งหน้าเยอะมาก
แต่ทุกคนสามารถมีผิวที่ดีได้ โดยที่หลักก็คือ เรียกว่า Glass Skin ไม่ได้หมายความว่าการ
แต่งหน้าที่ดูเป็น Glass Skin อย่างเดียว คือต้องดูแลตั้งแต่ Skincare ต้องกำจัด Dead Skin Cell หรือว่า Blackhead ที่ตายแล้วออกไป ถึงจะทำให้การ
แต่งหน้าติดทนนาน แบบ Glass Skin แล้วดู Shine ค่ะ
Glass Skin นี่เชื่อว่าผู้หญิงไทยได้ยินกันมาเยอะนะครับ

แต่ว่าอาจจะยังไม่เข้าใจว่า Glass Skin นี่จริง ๆ แล้วมันเป็นยังไง แล้ว
ถ้าเกิดว่าผิวไม่ดีล่ะ จะ
แต่งแบบ Glass Skin ได้ไหม เมื่อสักครู่ที่ถาม Glass Skin กับ Oily Skin บางครั้ง
ถ้าฟังเผิน ๆ อาจจะฟังดูเหมือนกัน
แต่ว่าที่แตกต่างกันเลย คำว่า Glass Skin มันจะมีความ Moisture มีความชุ่มชื้นและดูสุขภาพดี
แต่คำว่า Oily Skin จะดูเป็นความมัน ความเยิ้ม ดู Greasy
ดังนั้น ทุกคนสามารถมี Glass Skin ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวเอเชียชาติไหน อย่างที่เกริ่นไปเมื่อสักครู่นี้ว่า Skincare เราต้องดูแลผิวให้ดีก่อน
แต่ว่าการ
แต่งหน้าต้องรู้จักการลง Layering ไม่ว่าจะเป็น Foundation หรือ Concealer ต้องลงปริมาณ น้ำหนักที่เหมาะสม แล้วก็อาศัยเทคนิคอีกเล็กน้อย จะทำให้ Texture ดูเรียบเนียนและดูเป็น Glass Skin สุขภาพดีค่ะ
อย่างวันนี้ที่ฉัน
แต่งมาก็จะเรียกว่าใช้แค่ Base Make Up Eye Brow , Eye Liner และก็ Lip อย่างที่เห็นเท่านั้น พูดในรายละเอียดอีกลึก ๆ คือการเลือกสีของ Base Make Up คือ Color สำคัญมาก ๆ ให้ Match กับ Skin Tone ให้มากที่สุด ไม่ให้เข้มไปหรืออ่อนไป ให้พยายามค้นหาพื้นผิวตัวตนของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วก็สิ่งสำคัญคือวิธีการลงน้ำหนัก การควบคุมปริมาณสำคัญมาก ๆ ถึงจะเป็น Glass Skin อย่างที่เห็นค่ะ

ถ้าอยากมี Glass Skin ต้องใช้อะไรบ้างเป็น Key Product Glass Skin ฉันใช้ product ชิ้นนี้เป็นชิ้นแรกค่ะ
จากนั้นใช้สิ่งนี้ในการเติมระหว่างวัน
แต่ในบางครั้งลูกค้าชาวเกาหลี และลูกค้าชาวญี่ปุ่น ก็จะซื้อแค่ชิ้นนี้เพื่อใช้สำหรับงานผิวทั้งหน้าก็มีค่ะ

แต่…

ถ้าอยากได้ผลออกมาให้ดูเป๊ะ หรือดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ก็แนะนำให้ใช้สองตัวนี้คู่กันจะดีกว่า คือจริง ๆ เมื่อกี้คุณ Jung Saem Mool บอกว่า ให้ใช้อันนี้ก่อนในการ
แต่งผิว จริง ๆ เป็น Foundation ที่มาพร้อมกับ Concealer ในตลับเดียวกัน ซึ่งเค้าก็จะมีพัฟฟ์แล้วก็มีตัว Applicator สำหรับ Concealer ไว้ให้นะครับ
ซึ่งเวลาใช้ก็บีบ กดออกมา กดตรงนี้นะฮะ ก็จะมีเนื้อไหลออกมา เค้าก็จะมี Applicator นะครับ
ใน Product ที่แนะนำสำหรับใคร ๆ ที่อยากมี Glass Skin แบบฉันนะคะ ชิ้นนี้เรียกว่า Star-cealer ซึ่ง Star-cealer ตัวนี้เค้าจะมีนวัตกรรมพิเศษเลย คือตรงกลางเค้าจะเป็น Skin Pallete เอาไว้มิกซ์ระหว่าง ตัว Foundation และ Concealer ซึ่งเค้าจะมากับ Tool ที่ออกแบบเป็นพิเศษ 2 แบบ ชิ้นแรกเมื่อสักครู่ที่ถือคือพัฟฟ์ สำหรับแปรงนั้นไว้แต้ม Concealer เหมาะสำหรับปกปิดหรือพราง ในจุดที่สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือ เบลอรูขุมขนได้ค่ะ
อ๋อ เวลาใช้แปลว่าไม่ใช่ว่าเอาอันนี้แตะ แล้วก็แต้มรอยดำไป แล้วค่อยเอา Concealer มาแตะ คือเวลาใช้ให้อย่างนี้ แล้วก็มาอย่างนี้ ผสมแล้วค่อยมา ก็คือวิธีการใช้
ถ้าสำหรับตัว Foundation ใช้อย่างเดียวก็ได้
แต่ว่าต้องวอร์มตรง Pallete ตรงกลางก่อน เพื่อให้รองพื้นซึมเข้าไปในพัฟฟ์อย่างสม่ำเสมอ และเมื่อเราแตะไปที่ผิว ปริมาณรองพื้นจะพอดี กับ Concealer ก็เช่นกัน เหมือนการวอร์มถูกไหมคะ บางคนเค้าจะแตะปุ๊บลงหน้าเลย ทำให้ปริมาณมันไม่เหมาะสม อาจจะเยอะหรือน้อยไปทำให้เป็นคราบได้ ให้ลองสังเกตของคนที่เป็นช่าง
แต่งหน้า ส่วนใหญ่เค้าจะวอร์มที่หลังมือก่อน เป็นการวอร์มก่อนลงหน้า
ดังนั้นจึงมีอุปกรณ์ที่เป็น Pallete ตรงนี้เอาไว้วอร์มก่อน ไม่ค่ะ
อย่าทำแบบนั้น เยอะเกินไปค่ะ
ให้รองพื้นหมดไปจากจานผสมสี รองพื้นจะกระจายตัวบนพัฟฟ์อย่างสม่ำเสมอ สวย เสร็จแล้วก็ Concealer นิดหน่อย เข้าใจแหละ เวลาบีบออกมามิกซ์ ต้องดูให้จานผสมสีสะอาดเลย ให้รองพื้นหายไปหมด อย่ากดรองพื้นขึ้นมามากเกินไป ไม่ต้องกดสุด ใช่ไหม ปริมาณเท่านี้ Perfect ค่ะ
เราว่าเราใช้น้อยแล้วนะ เค้าใช้น้อยกว่าเราอีก เค้าบอกว่าเวลากด เห็นไหม อย่ากดสุดนะครับ
กดนิดเดียว เนื้อครีมแค่นี้ แล้วบีบออกมา แล้วก็เกลี่ย เกลี่ยแล้วก็ เอาให้ตรงแป้นนี้สะอาดเลยนะฮะ เหมือนเช็ดถูออกไปเลย เพราะเค้าบอกว่า
ถ้าเกิดว่าเรายังเกลี่ยไม่ดี เห็นไหม ตรงนี้ไม่เกลี้ยง ไม่สะอาด แปลว่ามันจะเยอะเกินไปที่พัฟฟ์ ต้องเอาแบบเนียน พัฟฟ์นุ่มมาก เมื่อกี้คุณ Jung Saem Mool ให้ทริคที่น่าสนใจมาก ๆ นะครับ
การ
แต่งผิว สามารถ
แต่งผิวให้มีมิติได้ด้วยไม่ใช่สี
แต่ใช้ปริมาณของรองพื้นหรือ Concealer ช่วยได้นะครับ
อย่างเช่นในบริเวณที่ผิวเรามีความหนาแน่น หรือพูดง่าย ๆ ว่าเนื้อผิวที่ค่อนข้างเยอะ ก็คือช่วงบริเวณแก้มนี่นะครับ
เราสามารถลงหนาหน่อยได้ เนื้อรองพื้นหรือ Concealer
แต่ช่วงที่เนื้อผิวที่ค่อนข้างบาง เนื้อผิวที่ติดกระดูก อย่างเช่นบริเวณหน้าผาก หรือหว่างคิ้ว หรือว่าช่วงใต้ตา หรือว่าช่วงร่องแก้มนี่นะครับ
ซึ่งปริมาตรผิวจะบาง เราต้องลงให้บางที่สุด อันนี้จะทำให้ผิวดูมี Dimension และก็ดูมีมิติมากขึ้น ยังไม่เคยใช้ Jung Saem Mool และอยากจะเริ่ม คุณแนะนำเป็นตัวไหน อันแรกที่อยากจะแนะนำเลยคือ Mool Cream Texture อันนี้ทาแล้วจะรู้สึกชุ่มชื้นเหมือน Essence จะรู้สึกว่าชุ่มชื้นมาก ๆ
แต่ไม่มันแล้วมีความเงา ก็เป็นตัวเสริมทำให้มี Glass Skin ได้ด้วย ชิ้นแรกไปแล้วนะคะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวที่ 2 ที่อยากจะแนะนำสำหรับสาวไทยมาก ๆ เลย เพราะว่าแดดค่อนข้างแรงและต้องการให้ผิวสว่างขึ้นมาอีก 1 ระดับ ตัวนี้เรียกว่า Tone-up ทำให้สว่างขึ้น 1 ระดับและมี SPF 50+ PA+++ ด้วยค่ะ
คือรู้สึกว่าแค่ใช้อันนี้ Mool Cream นะครับ
แล้วก็ตัว Skin Setting Tone-up Sun Base 2 ชิ้น ก็ดูสินี่มีความเป็น Glass Skin ขึ้นมาแล้วคุณ Amazing มาก ๆ ชิ้นต่อมา Medium Lighting Nuder Cushion เป็นถาดที่ใช้เพื่อให้ได้ปริมาณที่ถูกต้อง Mix and Touch คุณ ตายแล้ว ดิฉันเป็นดาราเกาหลีได้แล้วตอนนี้ Love คุณคิดว่าเค้ามี Stock พอไหมคะสี Just Red ฉันคิดว่าสีนี้จะขายหมดเป็นสีแรกอย่างแน่นอน Just Red ซึ่งรุ่นนี้ไม่ใช่ Matte ธรรมดา
แต่เป็น Air Matte
เพราะฉะนั้นมีความ Matte
แต่ไม่ตกร่อง ให้ความชุ่มชื้นและเบาบางเหมือนอากาศ ที่ชอบก็คือว่าเป็นแดงที่มีติดส้มมาใช่ไหมฮะ ฉะนั้น มันดู Modern ดูทันสมัยนะครับ
แล้วก็มีความ Street Style คือใช้ได้กับทุกวัย แล้วก็ชัยเชื่อว่าคนที่มีผิวสีเข้ม ๆ ก็จะทำให้หน้าดู Bright ดูสดชื่นขึ้น หรือวัยรุ่นทาก็ไม่ดูแก่ คนที่มีอายุทาก็จะดูทันสมัยขึ้น ไม่ดูเชย ฉะนั้นเป็นสีที่ หมด เป็น Cushion-Cealer ค่ะ
เป็น Cushion และ Concealer อยู่ด้วยกันค่ะ
แล้ว Cushion 2 อันนี้ เลือกใช้อย่างไร มันต่างกันอย่างไรครับ
นอกจากการที่มีอันนี้ขึ้นมาด้วย เนื้อมันต่างไหม Cushion มี 2 แบบ อันที่ถืออยู่เรียกว่า Essential Nuder ก็คือผิวแห้งหน่อย ต้องการความชุ่มชื้น ส่วนอีกแบบนึง ซึ่งเราสามารถมี Cushion 2 อันได้ใน 1 ตลับ อย่างเช่นตัวที่ถืออยู่จะเป็น Matte อันนี้จะลง T-Zone ก็ได้ แล้ว
ถ้าแบบเงา ๆ หน่อยก็จะเป็นแบบ Nuder Essential ก็จะมีความ Glass ลงอีกบริเวณนึงให้ดูเงาก็ได้ แล้วต่างกับอันนี้อย่างไรครับ

ถ้าไม่อยากพก 2 ตลับ ซื้อตลับเดียว 2 in 1 เป็นการรวมไว้ใน 1 ตลับ ก็ไปลองดูกันสำหรับ Cushion ที่ชื่อว่า Essential Skin Nuder Cushion แล้วก็ Essential Skin Nuder Long Wear Cushion
ถ้า Long Wear ก็คือสำหรับคนผิวมันนั่นแหละ Matte อันนี้ Nuder Cushion ก็สำหรับ Glass Skin นั่นเอง ก็ประมาณนี้ มี 1 คำถามคุณ Jung Saem Mool นะฮะ คือชอบผลิตภัณฑ์ของคุณมากเลยนะครับ

แต่ทีนี้คนไทยนะครับ
ที่บางคนสีผิวจะเข้ม หรือเข้มเลยแหละนะครับ
เรียกว่าค่อนข้าง Dark
แต่เค้าอยากใช้ เค้าก็อาจใช้ไม่ได้ ในอนาคตคุณจะมีทำสี Cushion หรือ สี Concealer ที่เข้มขึ้นสำหรับคนที่ Darker Skin ไหม แน่นอนค่ะ
เป็นคำถามที่ดีมาก แล้วก็เป็นสิ่งที่กำลังอยู่ในช่วง ของการคิดค้นพัฒนาเร็ว ๆ นี้มาแน่นอน สำหรับคนผิวเข้ม ใครที่มีผิวสีเข้ม แล้วก็เป็นแฟนของ Jung Saem Mool อยากจะใช้เหลือเกินนะครับ
อดใจรอ เพราะว่าในอนาคตไม่น่าจะนานมากนะฮะ เค้าจะมีงานผิวนะครับ
ซึ่งมีโทนสีให้เลือกมากขึ้นนะครับ
โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง ที่มีสีผิวค่อนข้างเข้ม ฉะนั้น รอแป๊บนึงนะฮะ เชื่อชัย ก็เป็นไงฮะ
แต่งออกมาแล้วนะครับ
งานผิวที่แท้ True นี่นะฮะ ก็ยกให้คุณ Jung Saem Mool นะครับ
กราบเลย คือดูสะอาด ดู Fresh และก็ดูเป็น Glass Skin ที่ดูสวยงามและดูไม่มัน ไม่เยิ้มนะฮะ ฉะนั้น ก็
ถ้าใครอยากจะมีผิวที่ดูเป็น Glass Skin แบบนี้ ตอนนี้ Jung Saem Mool นะครับ
มีเคาน์เตอร์แล้วที่ Siam Center นะครับ
ที่ชั้น G โซน Atrium 2 นะครับ
วันนี้ต้องขอขอบคุณ คุณ Jung Saem Mool มาก ๆ นะครับ
ที่ให้โอกาสมาร่วมพูดคุยกับชัยในรายการเชื่อชัยนะครับ
ซึ่งเราเป็นรายการเดียวที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แบบ Exclusive สุด ๆ เลยนะครับ
แล้วก็มาให้ความรู้ เคล็ดลับ และก็เทคนิคต่าง ๆ ในการ
แต่งผิวนะครับ
ชัยได้ความรู้เพียบมาก ๆ เลย ฉะนั้น
ถ้าใครอยากได้ผิวแบบ Glass Skin นะครับ
เชิญที่เคาน์เตอร์ Jung Saem Mool เชื่อชัย เชื่อชัย

แนะนำสกินแคร์เพื่อคนผิวมัน รูขุมขนกว้าง ควรเลือกใช้อะไรดี?

ก่อนที่เราจะมาป้ายยานะครับ
ใครมีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง มาแสดงตัวกันตรงนี้หน่อย คนเราส่วนใหญ่เวลาหน้ามัน มันก็จะมาพร้อมกับปัญหารูขุมขนกว้างด้วย และบางคนก็อาจจะมาพร้อมกับปัญหาเป็นสิว หน้ามันจริง ๆ แล้วมันมีหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่แล้วหน้ามันจะมาจากกรรรมพันธุ์ หรือผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะมีผิวมันกว่าผู้หญิง เพราะว่าฮอร์โมน
แต่ก็จะมีบางคนที่เดี๋ยวมัน เดี๋ยวไม่มัน มันเป็นช่วง ๆ มันแล้วผิวก็ขาดน้ำด้วย ส่วนใหญ่จะมาจากไลฟ์สไตล์ พูดมาหลายครั้งมากนะครับ
ว่า น้ำมัน หรือการทำงานของต่อมไขมัน หรือน้ำมันในผิวของเรา กับน้ำในผิว เป็นคนละเรื่องกัน น้ำมันในผิวนะครับ
เป็นเรื่องความยืดหยุ่น
แต่น้ำในผิวเป็นเรื่องของความชุ่มชื่น แม้จะเป็นคนละเรื่องกัน
แต่นางเกี่ยวเนื่องกัน
ถ้าเมื่อไหร่ที่ผิวของคุณขาดน้ำ หน้าก็จะมันมากขึ้นทันที เพราะว่าผิวเขาก็จะฉลาด เขาจะเร่งสร้างน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้ ความชุ่มชื่น หรือน้ำ ระเหยออกไป ทีนี้ ทฤษฎีมาพอแล้ว หลายคนไม่ค่อยสนใจหรอกค่ะ
ทฤษฎี หนูอยากรู้แค่ว่า หนูจะต้องใช้อะไรคะ โอเค ได้ เดี๋ยวจัดให้ ชุด Basic เบา ๆ อันนี้แบบว่าปรานี หลายคนคิดว่าหน้ามัน ไม่ควรใช้ Cleansing Oil ไม่เกี่ยว มันเป็นคนละเรื่องกัน Cleansing Oil ที่ดี ก็จะช่วยขจัดเอาความมันส่วนเกินบนผิวไปได้นะครับ
ทีนี้ชัยจะแนะนำว่า ตัวนี้ของ Dermalogica ที่ชื่อว่า Precleanse นะครับ
เป็น Cleansing Oil ที่ทำความสะอาด Makeup ได้ดีมาก ๆ และก็ช่วยทำความสะอาด เอาความมันส่วนเกินบนผิวของเราออกไป ปรับให้ผิวของเรามีความสมดุลขึ้น หลักง่าย ๆ ของชัยก็คือ
ถ้าหน้ามันก็เอาน้ำมันมาขจัดความมันออกไป

แต่…

ถ้า ไม่ได้มีเมคอัพ หรือผู้ชายที่ไม่ได้
แต่งหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวนี้ อันนี้เป็นตัวเช็ดทำความสะอาด Makeup ก่อนที่เราจะไปล้างหน้า เดี๋ยวชัยจะให้ดูเนื้อนะครับ
เนื้อเค้าจะเป็นเนื้อออยล์ที่เบานะครับ
แล้วกลิ่นก็ดีมาก เนื้อเบา ๆ จริง ๆ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
แต่ผิวมันใช้แล้วก็จะเวิร์กมาก ผู้ชายก็ใช้ได้ อันนี้เวิร์ก เสร็จแล้ว เราเช็คทำความสะอาด Makeup ออกไปแล้วใช่ไหมครับ
มาล้างหน้ากันนะครับ
ตัวล้างหน้าที่ชัยว่า สำหรับคนผิวมัน แล้วเวิร์กมาก ๆ เลย ก็คืออันนี้ ของ Eucerin ชื่อว่า Acne Oil Control Pro Acne Solution Cleansing Gel ขวดใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม เขาบอกว่าทำความสะอาด สลายความอุดตันล้ำลึก ต้นตอสิว ปรับสมดุลผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ซึ่งเป็นเนื้อเจลที่ใช้แล้ว หน้าไม่แห้งตึง แล้วก็ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน อันนี้เป็นตัวที่ชัยแบบ เวลาใครถามชัยเรื่องผิวมัน หรืออะไรต่าง ๆ ใช้อะไรล้างหน้า ชัยก็จะแนะนำตัวนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาในสเต็ปที่ 3 นะครับ
หลังล้างหน้าเสร็จแล้ว เราก็ควรจะปรับสมดุลผิวนิดนึง เพื่อให้ผิวของเรานี่มันมีความชุ่มชื่นนะครับ
แล้วก็ปรับสมดุล ไม่ให้มันเกินไป จริง ๆ dProgram มีน้ำตบหลายสูตรนะครับ

แต่ชัยเลือกสูตรสีฟ้ามาให้ เพราะเค้าคิดค้นสร้างสรรค์ขึ้นมาสำหรับ คนที่มีผิวมัน และก็รูขุมขนกว้าง อันนี้จะช่วยปรับสมดุล ควบคุมความมันส่วนเกิน ทำให้ผิวของเรา กลับไปในจุดที่ไม่มันเกินไป ใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ที่น่าสนใจมาก ๆ เลยอีกอย่างหนึ่งนะครับ
เค้าบอกว่าช่วยปลอบประโลมผิวที่แสบแดง และก็ป้องกันการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการที่ทำให้ผิวของเรามันอักเสบ หรือว่าหน้าดูเห่อ ดูแพ้ อะไรต่าง ๆ ที่บอกเมื่อกี้นะครับ
ว่าบางทีหน้ามัน เพราะว่า คือบางคนกลัวว่า หน้ามัน
ถ้าทา Moisturizer หรือเติมความชุ่มชื่นเข้าไป เดี๋ยวหน้ามันจะมันมากขึ้น มันคนละเรื่องกัน Moisturizer เราก็เลือกสูตรที่มันออยล์ฟรีนะครับ
หรือว่าไม่ได้มีน้ำมันเยอะเกินไป จะไม่ได้ไปทำให้น้ำมันในผิวของเรามันมากขึ้น เพียง
แต่ว่าการใช้ Moisturizer จะไปช่วยเติมความชุ่มชื่นผิว ทีนี้ Moisturizer ที่ชัยอยากจะเลือกให้นะครับ
ก็เลือกสูตรที่เนื้อมันเป็นเซรั่มนะครับ

แต่ว่าให้ความชุ่มชื่นสูง มีประสิทธิภาพ ก็แน่นอน ขวดนี้ของ Estée Lauder Advanced Night Repair ขวดนี้ เป็นเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื่นนะครับ
ทำหน้าที่เป็นเหมือนแม่เหล็ก ดูดจับความชุ่มชื่นไว้ในผิวนะครับ
ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมผิว แล้วก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของผิวในตอนกลางคืน ฉะนั้น ก็จะเวิร์กมาก ๆ จริง ๆ แล้ว Advanced Night Repair ไม่จำเป็นจะต้องใช้เฉพาะกลางคืนเท่านั้น ใช้ในตอนเช้าก็ได้ อันนี้ชัยถามทางแบรนด์มาเรียบร้อยแล้ว
ถ้าเป็นตอนเช้า หลังจากขวดนี้เสร็จแล้วนะครับ
ชัยจะแนะนำให้ใช้กันแดดอันนี้ เป็นตัวปิดล็อคตอนเช้า กันแดดอันนี้เป็นของ Kindness เป็นแบรนด์ไทยนะครับ
นอกจากจะเป็นกันแดดแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเหมือน Moisturizer ให้ความชุ่มชื่นผิวด้วย เขาคิดค้นขึ้นมาสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เขาบอกว่าเป็นสูตร 6 Free Harsh chemical free ไม่มีสารเคมีรุนแรง Alcohol free ไม่มีแอลกอฮอล์ Oil free ไม่มีน้ำมัน Color free ไม่มีสาร
แต่งสี Paraben free ไม่มีพาราเบนและก็ Fragrance free คือไม่มีน้ำหอมนั่นเอง หาซื้อได้ตาม Drugstore นะครับ
เนื้อเบา ซึมเร็วมาก ใช้แล้ว รู้สึกผิวสดชื่นด้วย เพราะว่า
ถ้าเราเป็นคนผิวมันใช่ไหม ธรรมชาติของเราจะผลิตน้ำมันออกมาเยอะอยู่แล้ว ฉะนั้นก็ไม่อยากให้ Layer Skincare มากเกินไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะมีเมคอัพเข้ามาเป็นขั้นตอนตามต่อมาอีก ชัยก็จะแนะนำให้ใช้แค่นี้ ซึ่งสำหรับผู้ชายที่ไม่
แต่งหน้าแค่นี้ก็อยู่แล้วเช่นกัน
แต่ทีนี้
ถ้ายังไม่สะใจ ใครพร้อมตามมานะครับ
ก็จะมี Step ที่ Further ขึ้นไปอีก ก็คือเสียตังมากขึ้นไปอีก สำหรับคนที่ผิวมันและอยากจะดูแลเรื่องรูขุมขนด้วย ซึ่งชัยเชื่อว่าน่าจะเกือบ 100%
ถ้าจะต้องดูแลเรื่องรูขุมขนด้วย หนูก็สู้ค่ะ
เชื่อว่าทุกคนสู้แน่ ๆ นะครับ
มา Section นี้ เริ่มจากกระปุกนี้ ชัยลองมาเดือน 2 เดือนแล้ว แล้วก็รู้สึกว่า รักมาก เวลาที่ใครมาเรียน
แต่งหน้ากับชัย
ถ้าใครผิวมัน รูขุมขนกว้าง แนะนำให้ใช้อันนี้ไปด้วยเลยนะครับ
ใช้เป็น Step แรก หลังจากที่เราล้างหน้า ก็คือ
ถ้าปกติคุณใช้แบบนี้ใช่ไหม คุณก็เพียงใช้ Pad อันนี้มาก่อนขวดสีฟ้านี้นะครับ
อันเป็นแบรนด์ที่ชื่อว่า Zelens มาจากประเทศอังกฤษ คิดค้นสร้างสรรค์โดย รู้สึกว่าจะเป็นศัลยแพทย์นะครับ
อันนี้จะเป็น Pad ในแผ่นนี้มีจะมีส่วนผสมที่ช่วย เหมือนทำหน้าที่ เป็นเหมือน การ Peeling ผิว อย่างอ่อนโยน ทุกครั้งที่คุณค่อย ๆ เช็ด อย่าใช้คำว่าเช็ดเลย ลูบไปที่ผิวเบา ๆ หลังจากที่ล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ คุณจะเหมือนได้ Exfoliate ผิว หรือได้กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนไปในตัว อันนี้ชัยจะใช้ทั้งเช้าแล้วก็ก่อนนอนเลย คือชัยใช้แล้วรู้สึกว่า 1. หน้าใสขึ้น ใสขึ้นเลย 2. ก็คือช่วยให้รูขุมขนละเอียดขึ้น คือผิวมันดูละเอียดขึ้น อันนี้จะชอบมาก ๆ เลย ฉะนั้นเวลาที่ชัยใช้ ชัยก็จะลูบไปที่ผิวเบา ๆ แบบนี้นะครับ
เป็นอันนี้ที่ชัยคิดว่า คนรูขุมขนกว้างใช้แล้วเวิร์ก ต่อมาอยากให้เพิ่ม Step ของน้ำตบขึ้นมาด้วย อันนี้จาก Jurlique เป็นหนึ่งในน้ำตบลูกรักของชัยนะครับ
ชื่อว่า Activating Water Essence อันนี้มีส่วนผสมของรากต้นมาร์ชแมลโลว์นะครับ
ใช้แล้วชัยรู้สึกว่าทำให้ผิวของเรามันเต่ง มันแน่นขึ้น กลิ่นก็หอมสะอาด คุณก็ใช้หลังจากน้ำตบขวดสีฟ้านี้ไปเลยนะครับ
คือ
ถ้าคุณเป็นคนผิวมัน แล้วคุณมีรูขุมขนกว้าง ชัยอยากจะให้เน้นใช้ Skincare โดยเฉพาะในตอนเช้า เป็นการ Layer น้ำตบ เพราะ 1. บางเบา ซึมเร็ว และไม่เพิ่มความมันบนใบหน้า ชัยก็เลยจะเพิ่มขวดนี้เข้ามา ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตบลูกรักของชัยเลยนะครับ
คือใช้แล้วชัยรู้สึกว่าผิวนี่ชุ่มชื่นขึ้น เด้งขึ้น นุ่มขึ้น และที่ชัยสังเกตได้อีกอย่างหนึ่ง หลังจากที่ชัยใช้ขวดนี้อย่างต่อเนื่องก็คือว่า พอมันนุ่ม มันเด้ง มันชุ่มชื่นแล้ว รูขุมขนมันดูเล็กลง ผิวมันเบียดแน่นกันมากขึ้น อันนี้ก็เลยอยากให้เสริมน้ำตบอันนี้ขึ้นมา หลังจากขวดนี้นะครับ
ยืนหนึ่งเรื่องกระชับรูขุมขน และก็ทำให้ผิวละเอียดและหน้าใสขึ้น ก็คือ Drops of Youth™ เซรั่มจาก The Body Shop อันนี้ไม่พูดมาก เพราะว่าพูดมาหลายครั้งมากแล้วนะครับ
อันนี้แนะนำเลย ทุกครั้งเวลาที่ใครถามว่า
ถ้ารูขุมขนกว้าง หนูควรจะใช้อะไร อยากหน้าใสหนูควรจะใช้อะไร พี่ชัยจะแนะนำขวดนี้เลย เซรั่มจาก The Body Shop ขวดนี้ ชื่อว่า Drops of Youth™ ดีมาก ชอบมาก เวิร์กมาก ในตอนกลางคืนให้เติมอันนี้ขึ้นมาด้วย ของ Estée Lauder คือ Advanced Night Repair ตัวล่าสุด ที่ชื่อว่า Intense Reset Concentrate ชัยเคยรีวิวไปแล้ว เทปก่อนหน้านี้ ก็คือเค้ามี Hyaluronic Acid ที่มาในหลากหลายขนาดโมเลกุล เป็นไฮยาที่หลายไซซ์ อันนี้จะทำให้ผิวของคุณนี่ดูเปล่ง เต่ง ๆ ขึ้น ฉะนั้น ทั้ง 3 ไซซ์ 3 ระดับชั้น ใช้เฉพาะตอนกลางคืน ใช้หลังจากตัว Advanced Night Repair เสร็จแล้ว แล้วก็เติมอันนี้เข้ามาก็ได้ หรือคุณจะใช้แค่ขวดนี้ก็ได้แล้ว
แต่ อีกอย่างหนึ่งก็คือ เค้าช่วยปลอบประโลมผิวที่ตกใจอยู่ ผิวที่สะดุ้งอยู่ จากการแพ้ การนอนน้อย ความเครียดอะไรต่าง ๆ อันนี้จะช่วย Calm Down ผิว

แต่…

ถ้าคุณต้องการดูแล เรื่องรูขุมขนกว้าง ชัยแนะนำให้ใช้ไปเลยทุกวัน ในตอนกลางคืน
ถ้าคุณมีความอดทน อดทนในเรื่องของการเสาะหา และในการทาด้วย เพราะว่าบางครั้ง หลายคนอาจจะลำบากใจที่จะทานิดนึง ทั้งในเรื่องของเนื้อ และก็ในเรื่องของกลิ่น ที่อาจจะไม่ได้มีความน่ารื่นรมย์มาก
แต่จะบอกว่า มันเป็นอะไรที่ เลอค่า ราคาน่ารัก แล้วเห็นผลแบบ ว้าว มาก ๆ เลย ก็คือหลอดนี้
ถ้าเป็นภาษาฝรั่งเศสก็อ่านว่า A Trois en Treize นะครับ
เอาง่าย ๆ ตามสไตล์เราก็ A313 นะครับ
อันนี้จะมี Retinol A เข้มข้น ที่เข้มข้นมากว่าใน Skincare ทั่วไป
แต่ยังไม่จัดเข้าข่ายเป็นยา สามารถใช้ได้เองที่บ้าน ข้อแม้ในการใช้หลอดนี้นะ ใช้ 3 วัน หยุดไป 1 วัน แล้วกลับมาใช้อีก 3 วัน ใช้เฉพาะตอนกลางคืนนะครับ
ก็นี่ไง ตามสูตรของเขานะครับ
A313 แปลว่า ใช้ 3 วัน หยุด 1 วัน แล้วก็มาใช้อีก 3 วัน ต่อเนื่องกันไปสักประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วหยุด ไปสักประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วก็กลับมาใช้ใหม่แบบนี้ก็ได้นะครับ
หรือจนคุณรู้สึกว่า รูขุมขนคุณมันเล็กลงแล้ว อันนี้คุณก็หยุดไปเลยก็ได้ คุณดูสิ ความมัน ความเหนียวของเขา ฉะนั้น
ถ้าจะทา กะเวลาก่อนนอนนิดนึง ไม่ใช่ทาปุ๊บแล้วลงไปนอนเลย มันติดหมอนหมด
ถ้าคุณเป็นคนสวยทนได้ หลอดนี้นะ คุณเอ๊ย เป็นไงเจอคำว่า คุณเอ๊ย ดีมาก และอยากจะเพิ่มเข้ามาอีกนิดนึงนะครับ
สำหรับใครที่ผิวมันและรูขุมขนกว้าง ในทุกสัปดาห์ ควรจะมีการสครับ
หรือการมาสก์หน้าเพิ่มขึ้นมา ก็แนะนำอันนี้ ซึ่งดีมากนะครับ
เป็นโคลนมาสก์หน้า เพื่อดูดซับความมันส่วนเกิน ที่มีส่วนผสมของ สารสกัดหรือ Essential Oil จากกุหลาบ อันนี้ชื่อว่า Flawless Skin Infusion De Rose Purifying Clay Mask จาก Laura Mercier อันนี้เป็นมาสก์สีชมพู ดูสิคุณ ใครสายกุ จะต้องเลิฟมาก ๆ คือนอกจากจะให้ความชุ่มชื่นแล้วนะครับ
ยังช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน ปรับสมดุลผิวด้วย แล้วก็ทำความสะอาดผิว ดูดซับสิ่งสกปรกต่าง ๆ ในรูขุมขนของเราออกมาอย่างล้ำลึก ลดการอุดตันของผิว ชอบมากคุณ ลองดูแล้วกันนะครับ
Episode นี้ เลือกทำออกมาเพราะว่า Inbox กันมาถามเยอะเหลือเกิน เรื่องผิวมัน รูขุมขนกว้าง ก็เลยจัดให้เป็น Episode หนึ่งไปเลยแล้วกัน เอาใจ Fanpage ที่ผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือ
ถ้าใครเป็น Fanpage ที่ไม่ได้ผิวมัน รูขุมขนกว้างก็ Tag บอกคุณแฟน คุณเพื่อน คุณสามี อะไรก็ได้นะครับ
เพราะว่า ผู้ชาย ผู้หญิง ใช้ได้หมด สำหรับสูตรนี้นะครับ
ใครที่ผิวมัน รูขุมขนกว้างอยากให้ลอง เชื่อชัย สำหรับวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณ ร้าน Norse Republic สุขุมวิท 49 นะครับ
ซึ่งเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ดีไซน์เก๋ ๆ แล้วก็มี Home Accessory
แต่งบ้านที่ไอเดียดี ๆ มาก ๆ เลย ฉะนั้นอยากให้มาลองดูกัน เชื่อชัย

รองพื้นเสมือนผิวจริง เน้นการปกปิดแต่ให้ผิวธรรมชาติ จาก Covermark

วันนี้เราจะมา
แต่งหน้ากันคุณ จะมาเซอร์ไพรส์คุณ กับแบรนด์ที่คุณจะต้องเซอร์ไพรส์มาก ๆ เลย
ถ้าเกิดในยุค 1970 แบบชัย คุณจะต้องรู้จักแบรนด์นี้นะฮะ ชัยรู้จักแบรนด์นี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่า
แต่ก่อนชอบดูประกวดนางงามนะฮะ แบรนด์นี้เขาก็จะเป็นเหมือนสปอนเซอร์นะครับ
ในการ
แต่งหน้ากองประกวด อะไรต่าง ๆ นะครับ
แบรนด์นี้ก็คือ Covermark นั่นเอง สมัยนั้นน่ะ ช่าง
แต่งหน้านะครับ
ก็จะนิยมใช้รองพื้นของ Covermark มาก หนึ่งเป็นรองพื้นที่ประหลาดมาก คุณ คือปิดแน่นนะฮะ ติดทนนะครับ
แล้วยิ่งเหงื่อออกยิ่งสวย ผิวยิ่งฉ่ำนะฮะ เล่าให้ฟังนิดนึงว่า Covermark จริง ๆ แล้วชื่อนี่ ตรงตัวเลยก็คือ Covermark ขึ้นมาเพื่อปกปิด จุดด่างดำอะไรต่าง ๆ คนที่เป็นคนคิดค้นแบรนด์นี้ขึ้นมา เป็นผู้หญิงชาวอเมริกัน เขามีปัญหาตรงที่มีปานแดงใหญ่มากบนใบหน้านะฮะ แล้วสมัยนั้น 1920 ยังไม่มีผลิตภัณฑ์
แต่งผิวอะไรใด ๆ ที่สามารถปกปิด รอยปานแดงเข้ม ๆ นี้ได้ เขาก็เลยคิดค้นรองพื้นขึ้นมา เพื่อปกปิด แม้จะเริ่มต้นมาจากที่อเมริกา โดยคนอเมริกัน ไม่นานบริษัทที่ญี่ปุ่นนะครับ
ก็ไปซื้อมา จริง ๆ แล้วตอนนี้ Covermark นะครับ
เป็นแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่น คือหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นแบรนด์ในไทยนะครับ
ไม่ใช่ สำหรับชัยนะงานผิวจากประเทศญี่ปุ่น ก็คือยืนหนึ่งเหมือนกันนะครับ
มีเทคโนโลยีที่ล้ำและไฮเทคมาก ๆ งานผิวของญี่ปุ่นนะฮะ ทั้งบางก็มี ทั้งแน่นสุด ๆ ก็มี Covermark มาจากญี่ปุ่น ฉะนั้น ปกปิดเนียนแน่น เชื่อชัย คือตอนนี้กำลัง Love แป้งผสมรองพื้น ที่ชื่อ Moisture Veil LX ของ Covermark มาก ๆ คุณ ตลับหน้าตาเป็นแบบนี้นะฮะ
ถ้าใครตามชัย ดูเชื่อชัยบ่อย ๆ ก็จะรู้ว่า ชัยไม่ได้เป็นคนที่ มารีวิวแป้งผสมรองพื้นบ่อย ๆ จริง ๆ ไม่ค่อย Believe แป้งผสมรองพื้นเท่าไหร่ เพราะชอบผลลัพธ์ของการ
แต่งผิว แบบรองพื้นมากกว่า พอมาเจอแป้งผสมรองพื้นของ Covermark รุ่นนี้ ที่ชื่อ Moisture Veil LX นะ เอา ณ วันนี้นะ ณ ปัจจุบัน ณ ตอนนี้ เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ดีที่สุด ที่เคยใช้มา ความเจ๋งของนางก็คือว่า หนึ่งให้ผลการ
แต่งผิว แทบจะคล้ายกับรองพื้นเลย คือต้องปล่อยทิ้งไว้ซักพักนึงนะ เขาจะเปลี่ยนน้ำมันจากผิวเรานี้ ให้กลายเป็นความชุ่มชื่นและกระจ่างใส ผิวมันจะดูเนียนนะฮะ เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ใช้แล้วหน้าไม่ดูแป้ง คุณ ผิวมันจะดูมีความนุ่ม มีความเนียน ไม่ดูแห้ง ๆ แบน ๆ กร้าน ๆ ใครที่มีผิวแห้งไม่ต้องกลัวนะฮะ เพราะว่าเขาจะช่วยให้ความชุ่มชื่น ชัยสังเกตเลยว่าเวลาใช้ไปแล้วอะ แป้งผสมรองพื้นที่ผ่าน ๆ มามันจะดู Matte แล้วก็จะดูแบน ๆ บางแบรนด์ก็ไม่พลิ้วไปตามหน้าด้วย เวลาขยับหน้ามันก็จะเป็นริ้ว ๆ แตก ๆ แถวนี้ถูกไหมฮะ อันนี้ใช้แล้ว ที่เห็นชัดที่มากสุดเลยคือผิวมีความยืดหยุ่น ไม่ว่าคุณจะยิ้ม จะหัวเราะ จะแหกปาก จะอะไรก็แล้ว
แต่นะครับ
คือทุกอย่างพลิ้วไปตามเรานะฮะ ยืนหนึ่งมากตอนนี้ Covermark Moisture Veil LX เขามีทั้งหมด 6 สี ชัยก็จะใช้เบอร์ที่ชื่อว่า MN30 นะฮะ จะบอกว่าผู้ชายใช้นี่ เวิร์ก หน้าไม่โป๊ะ แล้วดูไม่แป้งนะฮะ จะไม่โดนเมาท์ว่าเป็นผู้ชายหน้าแป้งนะฮะ คุณจะใช้พัฟฟ์ก็ได้นะครับ
หรือใช้เป็นแปรงก็ได้ คือใช้งานอะ ฉะนั้น ใช้ ๆ ไปเถอะ ดีมาก ๆ ราคานะครับ
รีฟิลรวมตลับก็คือ 2,200 บาท

แต่…

ถ้าซื้อเฉพาะรีฟิลก็คือ 1,500 บาท แล้ว Covermark ชัยคิดว่าน่าจะมีทุกจังหวัดทั่วประเทศนะ เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่เกิดมาก็เห็นแล้วอะ คือของเขาดีอยากจะมาประกาศให้คนฟังนะครับ
เพราะว่าตื่นเต้นมาก ชอบมากนะฮะ Covermark นี่เป็นแบรนด์ที่ ช่างก็รัก
ถ้าคนธรรมดาใช้ก็จะ Love เช่นกัน เพราะว่าใช้ง่าย แล้วก็ปกปิด
แต่ว่ายังดูบาง ยังดูเป็นงานผิวอยู่ นอกจากแป้งผสมรองพื้นแล้ว ก็ยังมีรองพื้นนะครับ
ในรูปแบบตลับแบบนี้ด้วยนะฮะ อันนี้นี่โปรดิวเซอร์ของดิฉัน Love มากนะฮะ ก็คือคุณโรซี่ ชอบมาก เชียร์มาก ๆ รุ่นนี้นะครับ
เป็น Flawless Fit
ถ้าใครนะครับ
ชอบรองพื้น ชอบแบบฟีลลิ่งของการใช้แป้งผสมรองพื้นอยู่ อันนี้นะครับ
ก็จะดีมาก ๆ ต่างกันยังไง
ถ้าเป็นแป้งผสมรองพื้นรุ่น Moisture Veil นี้ ก็จะใช้ง่ายที่สุดแหละ
แต่ว่า
ถ้าคุณต้องการแบบว่าฉ่ำมาก ก็จะมาเป็นอันนี้ก็ได้นะครับ
เดี๋ยวให้ดูเนื้อ อันนี้ก็มี 6 สีเหมือนกันนะฮะ คุณดูเนื้อ คุณ นี่ฉ่ำสวย คือด้วยความที่ Pigment ในเนื้อรองพื้นของเขาแน่นมาก คุณสามารถใช้ได้ 2 แบบฮะคุณ คือใช้แบบว่าเป็นรองพื้น เกลี่ยไปทั้งหน้าก็ได้ หรือว่า
ถ้าเกิดมีรอยดำ หรือว่ามีฝ้ากระเล็ก ๆ น้อย ๆ นะครับ
คุณก็ค่อยใช้พู่กันมาแต้มเป็นคอนซีลเลอร์ได้ แล้วเป็นรองพื้นที่จริง ๆ แล้วชัยจะบอกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แป้งฝุ่นตาม เพราะว่าเดี๋ยวเขาจะเซ็ทเป็นแป้ง ไม่ใช้แป้งฝุ่นชัยว่าสวยกว่านะครับ
เพราะผิวจะดูฉ่ำและก็จะดูเป็นธรรมชาติ Flawless Fit
ถ้ารีฟิลพร้อมตลับนะครับ
อยู่ที่ 2,600 บาท เฉพาะรีฟิลอย่างเดียวก็คือ 1,900 บาท มีทั้งหมด 6 สีให้เลือกนะครับ
ลองไปเลือกดูกัน เชื่อชัย
ถ้าใครเป็นสายแบบว่า อุ๊ย ยังรักรองพื้นไม่แปรเปลี่ยนนะฮะ ก็มีอันนี้ฮะ JUSME Essence Foundation นะครับ
รุ่นกระปุกก็เป็นรุ่นที่ขายดี เพราะว่าเป็นรุ่นที่หนึ่ง ให้ความชุ่มชื่น ช่วยให้หน้าดูผ่องดูฉ่ำนะฮะ เนื้อเกลี่ยง่ายมากคุณ เหมือนจะอุ๊ยหนาแน่ ๆ เลยอะไรแบบนี้
แต่ไม่นะ ชัยแนะนำนะครับ
ว่า
ถ้าคุณเกลี่ยรองพื้นไม่เก่ง ให้ใช้ฟองน้ำแบบที่เป็นทรงหยดน้ำ แบบ Beautyblender อะ ช่วยเกลี่ยนะครับ
มันจะเกลี่ยได้ง่ายขึ้น
แต่ว่า
ถ้าคุณต้องการแบบว่าปกปิด ให้ใช้นิ้วนะครับ
เวลาใช้คุณต้องวอร์มก่อนนะ วอร์มเบา ๆ แล้วค่อยเอานิ้วมากด ๆ บนผิวไปเรื่อย ๆ ก็จะได้งานผิวที่ประณีตขึ้น ชัยใช้เบอร์ YN10 นะครับ
สำหรับรุ่นที่เป็นกระปุก อันนี้ราคา 1,700 บาทฮะ ใครที่กำลังจะ
แต่งหน้ารับปริญญาตัวเองนี้นะฮะ จะบอกเลยว่า Covermark เป็นอีกรองพื้นนึงที่ชัย ส่วนใหญ่จะแนะนำคนว่า
ถ้าจะ
แต่งหน้ารับปริญญา รองพื้น Covermark เวิร์ก เพราะว่าอยู่นานแล้วคุณไม่ต้องมาคอยทัชอัพมากนะฮะ เชื่อชัย คือหลายคนอาจจะแบบว่า ยังกลัวนะครับ
ว่า จะใช้ยากหรือเปล่า เพราะหลายคนอาจจะคิดว่า เป็นแบรนด์สำหรับช่าง
แต่งหน้า หรือระดับ Professional เท่านั้นนะฮะ หรือต้องขึ้นเจอไฟแบบประกวดนางงามหรือเปล่า อะไรอย่างนั้นนะครับ
ไม่เลยนะครับ
เดี๋ยววันนี้ชัยจะมาสาธิตให้ดูว่า คุณก็สามารถใช้เองได้ เพราะไม่ได้ใช้ยากขนาดนั้น ใครก็ใช้ได้นะครับ
ใช้ง่ายไม่ใช่เฉพาะช่างเท่านั้น น้องบอลลูน วิธีการใช้ Flawless Fit ของ Covermark นะฮะ ก็คือหลังจากที่พี่ลงเบสไปแล้วใช่ไหมฮะ เดี๋ยวพี่จะทำให้ดูข้างนึง แล้วก็เดี๋ยวน้องบอลลูนทำอีกข้างนึงเนอะ ของบอลลูนพี่เลือกมาเป็นเบอร์ 40 ให้ แตะขึ้นมาปุ๊บ หนูวอร์มที่หลังฝามือก่อนก็ได้นะครับ
แล้วลองเบา ๆ ไปที่ผิว
ถ้าแตะเยอะมันอาจจะเยอะเกินไปนะฮะ เดี่ยวมันจะดูหนา พอใต้ตาใช่ไหมครับ
เราก็ค่อย ๆ เบา ๆ นี่คือสเต็ปแรกแล้วนะ เราใช้มุม มุมนึงใช่ไหมครับ
ของฟองน้ำ แตะไปแล้วแบบนี้ไปแล้วใช่ไหมฮะ น้องใช้อีกมุมนึงของฟองน้ำที่ไม่มีรองพื้นนะครับ
เกลี่ย เก็บรายละเอียด ปึ๊บ ยังมีรอยสิวอยู่ใช่ไหมฮะ เราก็ค่อยมาแด๊บเบา ๆ แล้วเราก็ค่อย ๆ กดลงไปตรงนี้ แล้วเราก็เอาด้านฟองน้ำนะครับ
ที่ไม่มีรองพื้นนะครับ
มาเก็บเบา ๆ เห็นไหม แค่นี้เองทุกอย่างก็เนียนสวยแล้ว ไม่ยากใช่ไหมฮะ เดี๋ยวลองทำดู แตะอย่าเยอะนะ วอร์มที่หลังฝ่ามือด้วยนะคะ แตะบาง ๆ ถูก ดีค่ะ
พี่ให้เคล็บลับอย่างนึงว่า ก็ดูว่าอย่างพี่เห็นตรงนี้นะครับ
จะมีจุดที่เป็นดำ ๆ เวลาจะใช้เป็นคอนซีลเลอร์นะ เอาอีกด้านนึงก็ได้นะครับ
หนูลองทำมุมให้มันแหลมขึ้น ทำให้มุมมันแหลม ๆ เลยค่ะ
นั่นแหละค่ะ
เยี่ยม เห็นไหมตอนนี้มันก็ดูแบบ ทุกอย่างสม่ำเสมอเท่ากัน
แต่ว่าก็ไม่ดูหนาแล้วก็ใช้ง่าย YN20 พี่ว่าน่าจะได้แล้ว สำหรับของป๊อป เนื้อจะเป็นแบบเนื้อครีมแบบนี้เนอะ ฉะนั้นเวลาใช้ก็ตักออกมาเบา ๆ แค่นี้ แล้วก็วอร์มนะฮะ เสร็จแล้วนะฮะ กดเบา ๆ ไปที่ผิว เริ่มจากกลางหน้า ไม่ถูไม่เกลี่ยนะ แล้วก็อันนี้จะดีตรงที่ว่า เข้าไปใต้ตาแล้วเป็นคอนซีลเลอร์ใต้ตาได้ด้วยนะครับ
แล้วนอกจากนั้นเราก็ให้มันกระจายออกไปนะคะ เดี๋ยวลองทำดูอีกข้างนึงเนอะ กระจายไปให้ทั่ว ใช่ ที่นี้จะมีบางจุดนะครับ
ที่
ถ้าเกิดว่าเราไม่มีคอนซีลเลอร์ คอตตอนบัดอย่างนี้ก็ได้ แล้วหนูก็เฉพาะจุด แบบแถวนี้ค่อย ๆ Specific ก็ได้นะครับ
ประมาณนี้เนอะของป๊อป เมื่อกี้ก็คือทำให้ดูข้างนึง น้องก็ทำอีกข้างนึงก็คือ ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยนะฮะ คิดว่าแบบเราเอาไปใช้เองได้ไหม ได้ค่ะ

แต่งเองได้ ได้
แต่งที่บ้านเองได้เลย คือ
ถ้าไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของพี่ ก็คือจะออกมาเป็นแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมฮะ งานผิว Covermark เป็นแบรนด์ที่ช่างก็รักนะครับ
และคุณก็จะต้อง Love นะฮะ เพราะว่าใช้ง่ายและปกปิดแน่น เนียนนะครับ
แล้วก็ Long Lasting เชื่อชัย

แนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เส้นผม และเครื่องสำอาง จากแบรนด์ญี่ปุ่น เลอค่า ราคาน่ารัก

ไปช้อปปิ้งกันคุณ คุณรู้ไหมว่าผลิตภัณฑ์ Beauty ที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสายของ Drugstore หรือว่าเลอค่าราคาน่ารักที่ดี ๆ มาจากเครือของ SHISEIDO เยอะมาก คือหลายคนอาจจะคิดว่า SHISEIDO มีแค่เคาน์เตอร์แบรนด์ มีแค่ผลิตภัณฑ์ที่มีความ Luxury
แต่จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ดี ๆ อีกเยอะเลย ที่ราคาไม่แพง ที่หาซื้อได้ตาม Drugstore ก็มาจากเครือของ SHISEIDO เยอะมาก คือ SHISEIDO ต้องบอกว่า เป็นบริษัทใหญ่มากในญี่ปุ่น แล้วเขาก็มีแบรนด์ลูก ๆ เต็มไปหมดเลย สินค้าของเขามีตั้งแต่ Hair Care Make up ,Skincare เรียกว่าครบทั้งตัว แล้วก็ดี ๆ ทั้งนั้น เดี๋ยววันนี้ชัยจะพาทุกคนมาช้อปกันนะครับ
ซึ่งตอนนี้ชัยอยู่ที่ Watsons สาขา ICONSIAM ซึ่งสาขานี้ต้องบอกว่าของครบ ร้านกว้างขวางน่าช้อปมาก ๆ
ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวไปกันเลยครับ
แบรนด์แรกที่เป็นสายเลอค่าราคาน่ารักสุด ๆ ที่มาจากบ้าน SHISEIDO ก็คือชิ้นนี้นะครับ
หลายคนอาจจะจำได้แค่ว่า ชื่อว่า PERFECT WHIP
แต่จริง ๆ แล้วแบรนด์นี้ชื่อเต็ม ๆ ของเขาก็คือ SENKA PERFECT WHIP นั่นเองนะฮะ PERFECT WHIP อันนี้เป็นโฟมล้างหน้าที่ต้องบอกว่า ขายดีมาก ๆ ในประเทศญี่ปุ่น เป็นโฟมล้างที่วิปหนานุ่ม อย่างกับวิปครีม ใช้แล้วนุ่มหน้า ไม่แห้งตึงนะครับ
เขาบอกว่าเป็นโฟมล้างหน้าที่ น้อง ๆ วัยรุ่นญี่ปุ่นซื้อใช้เป็นชิ้นแรก เขามีทั้งหมด 6 สูตร สูตรที่ขายดีที่สุด ก็คือสูตรสีฟ้านี่แหละ
แต่สูตรที่ชัยจะพูดถึงอีกสูตรนึงนะครับ
ล่าสุดเพิ่งได้ลองใช้แล้วก็รู้สึกว่าชอบมาก ๆ ก็คือสูตรนี้ เป็นสูตรที่ ACNE CARE ดูแลสำหรับคนที่มีปัญหาสิว โดยเฉพาะ เขามีส่วนผสมของเกียวโต คาโมมายล์ ช่วยปลอบประโลมผิวนะครับ
แล้วก็มี Salicylic acid ใช้ดีมาก ๆ คุณ ราคาดีมาก หลอดละ 179 บาทเท่านั้นเอง นอกจากนั้น SENKA ไม่ได้มีเฉพาะ PERFECT WHIP อย่างเดียว เขายังมีนี่ Skincare บำรุงผิว มี Moisturizer บำรุงผิวนะครับ
ชื่อว่า SENKA White Beauty Glow Gel Cream เขาบอกว่าเป็นสูตรเพื่อผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ มอบความชุ่มชื่นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง เป็นเจลครีมที่เนื้อดีมาก ๆ เนื้อเป็นแบบว่า อย่างกับ Jelly แล้วก็ใสเป็นน้ำเลยนะ เวลาที่เราลูบไปที่ผิว นี่ขนาดยังไม่ได้แช่ตู้เย็นนะคุณ ยังรู้สึกว่า ลูบไปที่ผิวแล้วเย็นสดชื่นมาก ๆ ซึมเร็วมาก ๆ คุณ กลิ่นก็หอมสะอาด กระปุกนี้ 50 กรัม อยู่ที่ 450 บาท ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ เลอค่าราคาน่ารัก คุณภาพดีอีกแบรนด์หนึ่งเลย ที่อยู่ในเครือของ SHISEIDO
ถ้าพูดถึงครีมกันแดดจากญี่ปุ่น ในสายเลอค่าราคาน่ารัก ในสาย Drugstore ต้องยกให้ ANESSA เป็นกันแดดอันดับ 1 จากญี่ปุ่น หลายคนรู้จักอยู่แล้วนะครับ
ANESSA ขวดสีทอง มีเทคโนโลยี Aqua Booster คุณ เจ๋งตรงที่ ยิ่งโดนน้ำยิ่งเหงื่อออก ประสิทธิภาพในการกันแดดก็จะยิ่งมากขึ้น คุณฮะ ใช้ได้ทุกสภาพผิวนะ เนื้อก็จะเป็นน้ำนม ก็จะกลืนซึมง่าย กันแดดได้ประสิทธิภาพเกินราคามาก 60ml. ก็จะอยู่ที่ 899 บาท อุ๊ย ตอนนี้เขามีแถมด้วยคุณ เป็นสูตรสีขาวนี้ สูตรเจลชุ่มชื่น สำหรับใครที่อาจจะผิวแห้งมาก ๆ นะครับ
ชอบให้ผิวดูชุ่มหน่อย อันนี้สูตรเนื้อเจล อันนี้เอาไว้พกพาด้วย เนื้อนะครับ
ก็จะมีน้ำหนักขึ้นมาหน่อย ก็จะเป็นเนื้อเจล
แต่ว่าพอลูบไปปุ๊บก็จะแตกตัวเป็นน้ำซึมเร็ว ชอบ ๆ คุณ ที่ชอบมาก ๆ อีกอย่างหนึ่งของ ANESSA ก็คือ เขามีกันแดดแบบสเปรย์ด้วย เวลาไปทะเล ไปออกกำลังกายอันนี้เวิร์กมาก ๆ คุณ ฉีด ๆ ไปที่ตัวนะครับ
ต้องบอกว่าเป็นแบรนด์ที่ ตั้งหน้าตั้งตาจะทำ
แต่ครีมกันแดดอย่างเดียวเลย เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องครีมกันแดดโดยเฉพาะ เขาจะมีทุกสูตร เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าคุณจะต้องมีกิจกรรมแบบไหนในชีวิตประจำวัน กลางแจ้ง Outdoor หรือจะอยู่ในร่ม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์หมดเลยนะครับ

ถ้าคุณสังเกตดี ๆ เวลาที่คุณไปประเทศญี่ปุ่น ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Skincare , Make up หรือว่า Hair care เวลาเขา Display เขาจะต้องเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เปลี่ยนไปตาม Season
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยเปลี่ยน Display เลย แล้วก็ยืน 1 อยู่ตลอดก็คือครีมกันแดดของญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นเขาใช้กันทุกฤดูเลย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศแบบไหน อย่างของ ANESSA ก็เป็นกันแดดที่มีความคลาสสิกมาก ๆ แล้วก็ขายดีมาก ๆ ที่ญี่ปุ่น ใช้กันทุกฤดู ใช้กันตลอด 365 วันทั้งปี คนญี่ปุ่นเขารู้ดี เชื่อชัย d program คุณ วันนี้ชัยมา Confirm ว่า d program เป็นอีกหนึ่งในเครือ SHISEIDO ที่เขาคิดค้นขึ้นมาเพื่อที่จะมาแก้ปัญหา สำหรับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวระคายเคืองง่ายโดยเฉพาะ คือในญี่ปุ่นเดือนมีนาคมจะเป็นช่วงที่ ละอองเกสรมีการกระจายไปทุกทิศทุกทาง แล้วก็เป็นช่วงที่คนญี่ปุ่น เขาจะแพ้ละอองเกสรกันเยอะมาก นอกจากจะมีละอองเกสรในอากาศเยอะมากแล้ว ที่ญี่ปุ่นเขาก็ยังมีฝุ่น PM 2.5 ที่เยอะมากไม่แพ้บ้านเราเช่นกัน เขาก็เลยได้แรงบันดาลใจเอาตรงนี้แหละ มาคิดค้นสร้างสรรค์เกิดเป็นเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Aller Defense Technology ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะสำหรับ d program เท่านั้น ใครที่มีปัญหาแพ้ง่าย หรืออยู่ดี ๆ ก็เป็นสิว หรือหน้าเห่อ คัน แสบ แดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว อยากให้ลองเปลี่ยนมาใช้ d program ดู โดยเฉพาะสูตรขวดสีเทานี้ ซึ่งเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นมา เพื่อรับมือกับปัญหา ฝุ่น แล้วก็มลพิษในอากาศโดยตรง ก็คือสูตรที่ชื่อว่า URBAN DAMAGE CARE CONCENTRATE ขวดนี้ 100ml. อยู่ที่ 1,090 บาท อันนี้จะเป็นเซรั่มที่ ช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรงขึ้น เขาจะทำหน้าที่เป็นเหมือนฟิล์มบาง ๆ ไม่ให้ผิวของเราเจอกับฝุ่น หรือมลภาวะ หรือมลพิษในอากาศโดยตรง ก็จะทำให้ผิวของเราสามารถรับมือกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้ดีขึ้น ลองดูครับ
d program เชื่อชัย สำหรับชิ้นนี้ เป็นแค่น้ำตบ
แต่สามารถทำหน้าที่ได้เกือบเทียบเท่าเซรั่มเลย หลายคนบอกว่าเป็นน้ำตบเปลี่ยนชีวิตเหมือนกัน เพราะว่าเลอค่าราคาน่ารัก
แต่ประสิทธิภาพนี่อู้หูมาก ใครที่กำลังมองหาน้ำตบที่ราคาไม่แพง
แต่คุณภาพดี แล้วก็มีประสิทธิภาพในเรื่องของการ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ดูละเอียดขึ้น Za TRUE WHITE ESSENCE EX LOTION N เลยฮะคุณ 150ml. อยู่ที่ 420 บาท ใช้ดีมาก ๆ เลยนะคุณ อันนี้อยากให้ลองนะครับ
ชัยเคยรีวิวไปแล้ว ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขาดสต็อก หาซื้อกันไม่ได้นะฮะ ชัยว่าเป็นน้ำตบที่มีเนื้อคล้าย ๆ เซรั่มเลย ฉะนั้น เป็น Liquid Skincare ที่ใช้ดี ซึมเร็ว แล้วก็ประสิทธิภาพเกินราคามาก ๆ ในขวดนี้ของ Za TRUE WHITE ESSENCE EX LOTION N เขามีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า 4MSK ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของบ้าน SHISEIDO ใช้เทคโนโลยีเดียวกันเลย ในการลดเลือนจุดด่างดำ กับหลาย ๆ แบรนด์ที่อยู่ในเครือ SHISEIDO มั่นใจได้ว่าดีมาก ๆ อีกชิ้นนึงที่ได้ลองแล้ว ก็รู้สึกว่าสะพรึงมาก ๆ ก็คือชิ้นนี้นะฮะ เป็น CONCEALER คือตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่า ประสิทธิภาพจะดีขนาดนี้นะฮะ แม้จะเป็นแบบหลอด ๆ เป็นเนื้อ Liquid
แต่ว่าปิดได้แน่นเลย ทั้งสีทั้งเนื้อมันลื่น ดูมีความ Luxury มาก บางวันดิฉันก็ใช้เป็นรองพื้นไปเลยนะ เพราะว่า เนื้อบาง
แต่แน่น แล้วก็ดูไม่หนา ใครที่มีฝ้า แล้วมองหา CONCEALER ที่หาซื้อง่ายตาม Drugstore ทั่วไป และราคาไม่แพง เชิญ Za คุณดูสิ แล้วหลอดละ 295 บาท
ถ้าใช้แค่เป็น CONCEALER ใช้ได้ประมาณ 4-5 เดือนเลยนะคุณ ฉะนั้น มันดีมาก ๆ เชื่อชัย อีกอย่างหนึ่งที่เป็นสินค้า เป็นผลิตภัณฑ์ Beauty ที่เลอค่าราคาน่ารัก และใช้กันมายาวนานมาก สำหรับคนญี่ปุ่น ก็คือ Shampoo และ Conditioner จาก TSUBAKI นั่นเอง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มาจากเครือของ SHISEIDO ผู้หญิงญี่ปุ่น หรือคนญี่ปุ่น ใช้กันมานานมากแล้วก็ เป็นสิ่งที่แทบจะมีทุกบ้านที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะว่าไม่ต้องมานั่ง Question ว่าใช้ดีหรือไม่ดี เพราะยังไงก็เวิร์กแน่นอน จริง ๆ แล้ว TSUBAKI เขาเริ่มจาก 2 สูตร ก็คือสูตรสีแดง กับสูตรสีขาว ซึ่งสูตรสีแดงเป็นสูตรคลาสสิก ใช้ได้กับทุกสภาพผม บำรุงความชุ่มชื่นนะฮะ ขวดสีแดงนี่ก็ชื่อว่าสูตร Extra Moist นะครับ
สำหรับสูตรสีขาวก็จะเป็นสูตร Damage Care เหมาะกับผมแห้งเสียมาก ๆ
แต่ล่าสุด TSUBAKI เขาออกสูตรใหม่มา ซึ่งเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ คือสูตรที่ชื่อว่า Smooth นะครับ
สูตรสีฟ้า ซึ่งจะเป็นสูตรเพื่อผมตรงเรียบลื่น ใครมีปัญหาผมชี้ฟูจัดทรงยาก ก็ลองสูตรสีฟ้านี้

แต่…

ถ้าสูตรสีแดงอ่อนนี้นะครับ
ก็จะเป็นสูตรที่ชื่อว่า Moist เป็นสูตรเพื่อผมชุ่มชื่นยาวนาน จัดทรงง่าย เน้น 5 คุณประโยชน์จากธรรมชาติ ก็มี Lemon Citrus ช่วยปิดเกล็ดผม ให้ผมดูเรียบ ดูลื่นนะครับ
และมีน้ำมันจากเมล็ดดอก Tsubaki ช่วยทำให้ผมของเราเงาดูมีสุขภาพดี แล้วก็มีโปรตีนจากถั่วเหลือง มี Royal Jelly เหมือนเป็นสารอาหารบำรุงเส้นผมนั่นเอง อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมดี ๆ จากธรรมชาติ เต็มไปหมดเลยนะครับ
ราคาก็ดีมาก ๆ คุณ ทั้ง Shampoo และ Conditioner 450ml. อยู่ที่ 329 บาท หาซื้อได้ที่ Watsons และ Drugstore ทั่วไป มาลองดูว่าผมคุณเป็นสูตรไหน เขามีทุกสูตร สำหรับทุกสภาพเส้นผม เชื่อชัย ใครกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดี ๆ โดยเฉพาะใครเป็นแนวสาย Skincare หรือ Make up หรือ Hair care จากญี่ปุ่น แล้วก็ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้ว่าใช้ดีแน่นอน ลองผลิตภัณฑ์เหล่านี้นะครับ
ที่มาจากเครือของ SHISEIDO เชื่อชัย